มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในไม่กี่มะเร็งที่ป้องกันได้ หากได้รับการตรวจคัดกรองฯ อย่างถูกต้อง และสม่ำเสมอ แต่ผู้หญิงหลายคนไม่กล้าไปตรวจ เพราะไม่อยากขึ้นขาหยั่ง กลัวเจ็บ อายหมอ จึงได้มีการพัฒนานวัตกรรมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธี เอชพีวี ดีเอ็นเอ แบบเก็บตัวอย่างด้วยตัวเอง ให้เป็นอีกทางเลือกในการตรวจคัดกรองฯ
เอชพีวี (ฮิวแมน ปาปิโลมา ไวรัส) คือเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก มีกว่าร้อยสายพันธุ์ แต่มีเพียง 14 สายพันธุ์ ที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อมะเร็งปากมดลูก โดยสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุการเกิดมะเร็งปากมดลูกถึง 70%
การตรวจแบบ เอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการตรวจถึงระดับดีเอ็นเอ เพื่อหาเชื้อเอชพีวี ชนิดที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อระบุหาความเสี่ยงของโรคมะเร็งหรือภาวะก่อนมะเร็งในสตรี มีความไวในการตรวจเจอความผิดปกติ 92%สามารถเว้นระยะการตรวจได้ถึง 3-5 ปี หากผลตรวจไม่พบเชื้อ
นายแพทย์ปิยวัฒน์ เลาวหุตานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งชลบุรีและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขามะเร็งวิทยานรีเวช กล่าวว่า “เมื่อมีการเพิ่มทางเลือกในการตรวจให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง ด้วยการเปิดโอกาสให้สามารถเลือกเก็บตัวอย่างด้วยตนเองได้ เป็นการตรวจหาเชื้อเอชพีวี ที่เป็นสาเหตุหลักในการทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งต่างจากการตรวจแบบ แปปสเมียร์ ที่เป็นการตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ ซึ่งต้องรอให้เซลล์ผิดปกติไปแล้วจึงจะตรวจพบ ก็เชื่อว่าน่าจะช่วยเพิ่มความสบายใจในการเข้ารับการตรวจให้แก่ผู้ป่วยได้ และจะสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที”
ปัจจุบัน การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบ เอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ ยังไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่เป็นทางเลือกใหม่ที่มีให้บริการในโรงพยาบาลรัฐบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข โดยจะมีเจ้าหน้าที่พยาบาลคอยให้คำแนะนำวิธีการใช้งาน เพื่อที่จะได้ทำการสว็อบเก็บตัวอย่างได้อย่างถูกต้อง
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า “ปัจจุบัน สปสช. มีการบูรณาการโครงการรณรงค์การตรวจ คัดกรองมะเร็ง ปากมดลูกด้วยวิธี เอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ ให้กับผู้หญิงไทยอายุ 30-60 ปี ครอบคลุมทุกสิทธิ์ทั่วประเทศฟรี ซึ่งจัดโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและเครือข่ายหน่วยบริการในพื้นที่ จากที่เคยใช้การตรวจด้วยเทคนิคแปปสเมียร์ (Pap smear) ได้มีการปรับวิธีการตรวจใหม่โดยใช้เทคนิค เอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ และมีทางเลือกใหม่ การตรวจแบบ เอชพีวี ดีเอ็นเอ แบบเก็บตัวอย่างด้วยตัวเอง จะสามารถทราบผลได้ภายใน 1 เดือนสำหรับผู้สนใจ สามารถตรวจสอบการใช้สิทธิ เลือกหน่วยบริการได้ที่ กระเป๋าสุขภาพในแอปพลิเคชั่น เป๋าตังค์”
ปัจจุบัน ในประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกจากการคาดการณ์จำนวน 5,422 ราย ในปีค.ศ. 2017 และลดลงเล็กน้อยต่อเนื่อง 5,320 ราย ในปีค.ศ. 2020 ปัจจุบันอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งปากมดลูกอยู่ที่ 11.1 ต่อประชากร 100,000 คน แต่องค์การอนามัยโลกอยากให้ทุกประเทศลดอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งปากมดลูกเป็น 4 ต่อ 100,000 คน เรายังคงต้องดำเนินการตรวจคัดกรองมะเร็งอย่างเข้มข้น ควบคู่ไปกับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้เด็กนักเรียน
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้