รีวิว Apple Watch Series 8

พาไปออกกำลังกายด้วยกันมาร่วมสัปดาห์แล้ว

ขอรีวิวแบบนี้นะคะ

Apple Watch ซีรีส์ 8  เป็นรุ่นล่าสุดของปี 2022 เปิดตัวพร้อมกันกับ Apple Watch  SE และ Apple Watch Ultra

แน่นอนว่า ผู้คนส่วนใหญ่จะมองไปที่ รุ่น Ultra เพราะดูแตกต่างทั้งดีไซน์และสายที่เป็นเอกลักษณ์รวมทั้งราคาที่กระโดดห่างกันมาก

แต่ซีรีส์ 8 ก็ถือเป็นพี่ใหญ่ตัวยเก่งของรุ่นนี้แหละ

ถ้าจะให้แยกความแตกต่าง ก็จะบอกว่า

Apple Watch SE   เหมาะสำหรับให้เด็กๆ ใส่ หรือผู้ใหญ่ ผู้สูงวัยที่ไม่ต้องการใช้ฟีจเจอร์มากมายนัก

Apple Watch Series 8  เหมาะทุกเพศทุกวัย

Apple Watch Ultra  ตัวเรือนจะมีขนาดใหญ่กว่าและมีน้ำหนัก  เหมาะกับสายกีฬาระดับโปร  ดำน้ำเดินป่า วิ่งเทรล กิจกรรมกลางแจ้งแบบหนักหน่วงต่อเนื่อง กระเป๋าก็ต้องหนักด้วยนะจ๊ะ

แต่สำหรับผู้เขียนขอไปที่ Apple Watch Series 8 ขนาดจอ 45 MM  เพราะเหมาะกับข้อมือมากที่สุด  ลองใส่ รุ่น Ultra ปรากฎว่าใหญ่มาก เพราะข้อมือเล็ก…เหตุผลจริงๆ คือตังค์ไม่พอ

ฟีจเจอร์ที่มาใหม่จากความสามารถของนาฬิกาและ WatchOS9 ทำให้ Apple Watch ลงลึกรายละเอียดต่างๆ ขณะออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพได้มากขึ้น อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ผู้ใช้ก็เรียกร้อง  คู่แข่งก็ชอบแซะ  

แอป Workout   เมื่อเข้าไปใช้งานตามประเภทกีฬา  เช่น เลือกวิ่ง  ด้านขวาจะเห็น จุดสามจุด ให้คลิกเข้าไป  ตั้งค่าเป้าหมายการออกกำลังกาย เวลา ระยะทาง แคลอรี่   บอกโซนการเต้นของหัวใจ ขณะออกกำลังกาย กำหนด Pace ที่ต้องการ ถ้าสถิติตกก็จะได้รับการแจ้งเตือน  สามารถดูรายละเอียดเหล่านี้บนแอป Fitness บน iPhone  ได้ควบคู่กัน

แอปเข็มทิศ   อันนี้ชอบตรงลูกเล่นเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ เมื่อเปิดแอปนี้บนนาฬิกา จะเห็นรูปรอยเท้าอยู่มุมขวาล่าง  ให้กดเข้าไป   ไม่ต้องกลัวหลงทางหลงทิศ เราสามารถกำหนดตำแหน่งไปและกลับได้  ลองนึกภาพไปเดินเที่ยวต่างประเทศ ไปในถิ่นไม่คุ้นเคย แม้กระทั่งลานจอดรถ หรือไปเดินป่า

ฟีจเจอร์ตรวจจับการชนกัน ต่อยอดมาจากตรวจจับการล้ม ซึ่ง Apple Watch ทำได้โดดเด่นมาก ที่ผ่านมาสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้หลายราย  การตรวจจับการชนกัน  ใช้ประโยชน์จากไจโรสโคปและอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว  รวบรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวในห้องปฏิบัติการทดสอบการชนกันของรถยนต์โดยสารทั่วไป เช่น ชนด้านหน้า  ชนท้าย  ชนข้าง  พลิกคว่ำ

เมื่อ Apple Watch ตรวจจับได้ว่า เกิดเหตุรถชนอย่างรุนแรง อุปกรณ์จะตรวจสอบกับผู้ใช้และโทรหาบริการฉุกเฉิน หากเราไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองภายใน  10 วินาที    เมื่อตรวจจับได้ว่าเกิดเหตุรถชนอย่างรุนแรง อินเทอร์เฟซการโทรของบริการฉุกเฉินจะปรากฏบน Apple Watch   และ  iPhone หากอยู่ในระยะการเชื่อมต่อ

นอกจากนี้ยังมีติดตามค่าอุณหภูมิ  ผ่านเซ็นเซอร์ด้านหลังของนาฬิกาซึ่งใกล้กับผิวหนังที่สุด และเซ็นเซอร์ใต้จอภาพ  อุณหภูมิจากข้อมือในเวลากลางคืนสามารถเป็นตัวบ่งชี้อุณหภูมิโดยรวมของร่างกายมีประโยชน์ต่อคุณผู้หญิงวัยมีประจำเดือน  คาดคะเนช่วงไข่ตกจากข้อมูลย้อนหลัง  

ส่วนแบตเตอรี่ อันนี้ ก็ใหม่ คราวนี้มีโหมดประหยัดแบตเตอรี่  ถ้าเลือกโหมดนี้จะตัดฟีเจอร์ไม่จำเป็นออกไปก่อน ยืดใช้งานได้อีก  36 ชั่วโมง  จอภาพแบบติดตลอดไม่ได้กินแบตฯ มากมาย แค่เหลือบมองก็สว่างขึ้น

นอกจากนี้ก็ยังโหมดเตือนกินยามาด้วย

ที่ผ่านมา ผู้เขียนใช้รุ่นเซลลูลาร์  ก็จะผูกบริการนัมเบอร์แชร์กับ iPhone เวลาไปออกกำลังกายก็เอาไปแค่หูฟังกับ Apple Watch แค่นี้ก็ไม่พลาดการรับสาย

ขอสารภาพว่า สุดท้ายก็ใจอ่อนถือ iPhone ไปด้วยทุกครั้งที่ออกกำลังกาย  เพราะกลัวจะพลาดช็อตถ่ายรูปในเส้นทาง