TikTok For All กลยุทธ์ใหม่ปี 67  เสียเงินแน่กับ #TikTokป้ายยา

TikTok For All กลยุทธ์ใหม่ปี 67  เสียเงินแน่กับ # TikTokป้ายยา

TikTok เปิดตัว “TikTok For All”   วางกลยุทธ์ ปี 67 เน้นสร้างโอกาสให้คนไทยและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)   ผ่านการพัฒนาครีเอเตอร์ เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน

การที่ TikTok ลงหลักปักฐาน ย้ายสำนักงานมาอยู่ที่ปาร์ค สีลม เป็นการตอกย้ำความมั่นคงและการลงทุนในประเทศไทย 

ตามมาด้วยการแถลงข่าวครั้งแรกของปี เกี่ยวกับทิศทางปี 2567 ของ  TikTok    

เพิ่งจะมีเวลานั่งเรียบเรียงความคิด  อยากเล่าให้ฟังถึงทิศทางธุรกิจของ TikTok  ปี 2567

ครีเอเตอร์ไทยกว่า 3 ล้านคนมีรายได้จาก TikTok

ข้อมูลล่าสุดเปิดเผยโดย TikTok   พบว่า มีครีเอเตอร์คนไทยมากกว่า 3 ล้านคน สร้างรายได้จาก TikTok

  มีผู้ขายมากกว่า 2.4 ล้านคน (โดย 99% เป็นผู้ขายในประเทศ) ที่ได้รับการสนับสนุนจาก TikTok ในปี 2564 อุตสาหกรรมครีเอทีฟของประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 6.81% ของ GDP ของประเทศ

ในปี 2565 ที่ผ่านมา จำนวนบุคลากรที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นถึง 963,549 คน สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมครีเอทีฟที่มีส่วนทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต

ชนิดา คล้ายพันธ์, Head of Public Policy – Thailand กล่าวว่า  TikTok  ต้องการเป็นโอกาสทางธุรกิจของผู้คนในสังคมไทย จึงมุ่งมั่นสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน ปีนี้จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านแนวคิด TikTok for Smart Economy, Smart People, and Smart Environment   ดังนี้

Smart Economy

จะยกระดับธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก ผู้ประกอบการรายย่อย ให้มีความสามารถ ก้าวจากออฟไลน์สู่ออนไลน์

ที่ผ่านมา TikTok มีความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เช่น ความร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  พัฒนาผู้ค้ารายย่อยแล้ว ก่อนพาขึ้นไปอยู่บน TikTok Shop  ความร่วมมือกับกรมการพัฒนาชุมชน  พัฒนาผู้ประกอบการ OTOP แล้วคัดเลือกตัวแทนในแต่ละจังหวัดไปเปิดร้านและไลฟ์สตรีมบน TikTok Shop   เพิ่มทักษะให้กับผู้ค้าตลาดโบ๊เบ๊ หลังจากปิดร้านที่ตลาด สามารถเพิ่มยอดขายได้จากออนไลน์   รวมถึงการพัฒนาครีเอเตอร์ ซึ่งมีครีเอเตอร์ไทยกว่า 36% สร้างรายได้สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ

Smart People

ต้องการให้คนไทยมีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต สามารถต่อยอดอาชีพนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี  ผ่านการพัฒนาต่อยอดให้ครีเอเตอร์  พัฒนาทักษะให้กับนักเรียน ซึ่งจากที่ร่วมกิจกรรมกับนักเรียน ส่วนใหญ่บอกว่า อยากประกอบอาชีพครีเอเตอร์ จึงจะเน้นพัฒนาทักษะการทำคอนเทนท์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม

 Smart Environment

ที่ผ่านมาได้ทำแคมเปญ“ไม่เทรวม” ร่วมกับกรุงเทพมหานคร เพื่อเปลี่ยนทัศนคติสอนคนให้แยกขยะก่อนทิ้ง ปีนี้จะดำเนินโครงการนี้ต่อเนื่อง เพราะในเวลา 2 เดือน ลดขยะได้ถึง 100 ตัน   โดยจะขยายไปความร่วมมือไปยังโรงเรียนในสังกัด กทม. ให้ตระหนักถึงผลกระทบของขยะที่มีต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ TikTok ยังคงสร้างโอกาสอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนให้เกิด positive impact ผ่านแคมเปญต่างๆ เพื่อคอมมูนิตี้ผู้ใช้ชาวไทยทุกคน

TikToK  ครีเอเตอร์ เฮ้าส์ อีกผลงานเด่นของไทย

TikToK  ครีเอเตอร์ เฮ้าส์ ที่สยามพารากอน เป็นโมเดลความสำเร็จของทีม TikToK ประเทศไทย ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ครีเอเตอร์มาพบกัน จัดกิจกรรมกับ FC.  ปีนี้หลายประเทศจะนำรูปแบบนี้ไปใช้งาน

เคล็ดลับคอนเทนท์ที่จะทำให้โดนใจผู้คน ปี 2567

ทีมผู้บริหาร TikToK ให้ข้อมูลตรงกันว่า  ต้องเป็นคอนเทนท์ที่ดูแล้วสนุก สัมผัสได้ถึงความจริงใจ ความตั้งใจ ดูแล้วสร้างแรงบันดาล

ปีนี้ TiKToK ประเทศไทย จะขอเป็นผู้นำเทรนด์ในวงการบันเทิง ท่องเที่ยวเน้นในประเทศ  บิวตี้ แฟชั่นเน้นไปที่ดีไซน์เนอร์ชาวไทย   หนังสือและความรู้   เกม ฯลฯ

ดังนั้นเดือนมีนาคม จะเห็นการเปิดตัวฮับบันเทิง เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมของผู้ผลิตภาพยนตร์  โรงหนัง  และเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับแวดวงบันเทิงครบวงจร

การทำคลิปวิดีโอสั้นมากกว่า 1 นาที พบว่าได้รับการตอบสนองจากผู้ชมต่อเนื่องและมีจำนวนมากขึ้น และวางคลิปแนวนอนเต็มจอได้

เพิ่มฟีเจอร์ตัดต่อวิดีโอให้จบที่เดียวได้แอป   

อีกข้อมูลที่น่าสนใจก็คือ ผู้ชมวิดีโอ ดูไลฟ์ขายของจากครีเอเตอร์ มากกว่า 70 % ดูแล้วถูกกระตุ้นให้อยากซื้อ อยากทำตาม

ผู้ซื้อ ผู้ขาย ครีเอเตอร์คือหัวใจของ TikTok Shop

เมื่อทั้งผู้ซื้อ ผู้ขายและ ครีเอเตอร์ คือ หัวใจของ TikTok Shop   ดังนั้น TiKToK จึงเน้นพัฒนาเติมทักษะให้กับเหล่าครีเอเตอร์ทั้งเก่าและใหม่  เพื่อนำไปสู่การเชื่อมต่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์

ในปี 2567 TikTok  จะขยายการสนับสนุนการสร้างคอนเทนต์ไปที่พาร์ทเนอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์ด้วยกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น เวิร์คช็อปพิเศษสำหรับพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และยังคงสนับสนุนการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพต่อไปโดยขยายความร่วมมือกับครีเอเตอร์ระดับโลก ช่วยให้ครีเอทีฟคอมมูนิตี้ที่หลากหลายสามารถแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ไปพร้อมๆ กับเพิ่มขีดความสามารถของตนเอง

  TikTok ตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG), คอมเมิร์ซ, อาหารและเครื่องดื่ม (F&B), ยานยนต์, การเงิน, และแอปพลิเคชั่น

จากผลการศึกษาของ TikTok พบว่า การดูคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยมากกว่า 70% ของผู้บริโภคพึ่งพาวิดีโอบน TikTok

  ระหว่างแถลงข่าวเหลือบไปเห็น #TikToK ป้ายยา แล้วอดยิ้มไม่ได้ เพราะคนรอบข้างล้วนแต่ชอบดูวิดีโอไลฟ์ขายของจากครีเอเตอร์ ก่อนจะตัดสินใจเสียเงินด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง   เพิ่มเติมจากการชมวิดีโอสั้นๆ เพื่อความบันเทิงในระหว่างวัน