เทคโนโลยี

รอใช้ Apple Intelligence บน iPhone iPad และ Mac

11 กันยายน 2567

มีทั้ง  Writing Tools ที่มีประโยชน์, สรุปเนื้อหาสำหรับเมลและการแจ้งเตือน, Siri ที่เป็นธรรมชาติและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น, เครื่องมือ Clean Up ในแอปรูปภาพ

  Apple Intelligence  จะเปิดให้ใช้ในระบบเบต้า  โดยเริ่มต้นที่ U.S. English ในภูมิภาคต่าง ๆ รอบโลก  เดือนตุลาคม และฟีเจอร์ใหม่ ๆ รวมถึงการรองรับภาษาอื่น ๆ ในเดือนต่อ ๆ ไป

Apple Intelligence  เป็นระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่รวมเอาพลังของเจเนอเรทีฟโมเดลเข้ากับบริบทเฉพาะตัวของผู้ใช้เพื่อนำเสนอสิ่งดีๆ ที่มีประโยชน์และตรงใจ  จะเริ่มเปิดให้ใช้งานในเดือนตุลาคม 2567 พร้อมกับ iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1

ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ จะทยอยเปิดให้ใช้งานในเดือนต่อ ๆ ไป

หลังจาก Apple  เปิดตัว  iPhone 16 ใหม่ ที่สร้างมาเพื่อรองรับ Apple Intelligence ตั้งแต่แรกเริ่ม  ชิป A18 และ A18 Pro ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น  จึงทำให้ iPhone รุ่นนี้ล้ำหน้าและมากความสามารถที่สุดเท่าที่เคยมีมา

มีรายงานว่า ในช่วงแรก Apple Intelligence จะเปิดให้ใช้งานในภาษาอังกฤษแบบ U.S. English และเร็วๆ นี้จะเพิ่มภาษาอังกฤษ Australia, Canada, New Zealand, South Africa และ U.K. ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ รวมถึงรองรับภาษาอื่นๆ อาทิ ภาษาอังกฤษแบบ Singapore, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาญี่ปุ่น และ ภาษาสเปน จะทยอยรองรับพิ่มเติมภายในปีหน้า

เริ่มต้นใช้ Apple Intelligence

Writing Tools  ให้ผู้ใช้เขียนข้อความได้อย่างสละสลวยโดยการปรับการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความได้เกือบทุกที่ที่เขียน ทั้งในแอปเมล, โน้ต, Pages และแอปของบริษัทอื่น

ความทรงจำในแอปรูปภาพ ให้สร้างภาพยนตร์ที่อยากดู เพียงแค่พิมพ์คำอธิบาย   สามารถใช้ภาษาตามธรรมชาติเพื่อค้นหารูปภาพที่ต้องการ

การค้นหาในวิดีโอ  สามาารถค้นหาช่วงเวลาที่ต้องการในคลิป

เครื่องมือ Clean Up   ตรวจหาและลบวัตถุรบกวนสวยตาในฉากหลังของภาพโดยไม่ส่งผลใดๆ ต่อตัวแบบในภาพ

สามารถบันทึก ถอดข้อความ และสรุปเนื้อหาจากเสียงได้ในแอปโน้ตและโทรศัพท์  เมื่อมีการเริ่มบันทึกเสียงในแอปโทรศัพท์ในขณะที่ผู้ใช้คุยโทรศัพท์ ผู้ที่อยู่ในสายจะได้รับการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ และเมื่อวางสาย Apple Intelligence ก็จะสรุปเนื้อหาเพื่อช่วยทบทวนประเด็นสำคัญ

Screenshot

นอกจากนี้ Apple Intelligence  ยังช่วยจัดลำดับความสำคัญและจดจ่ออยู่กับช่วงเวลานั้น โดยการสรุปการแจ้งเตือนจากแอปต่างๆ และมีโหมดโฟกัสใหม่  “ลดการรบกวน”  จะแสดงเฉพาะการแจ้งเตือนที่อาจจำเป็นต้องโต้ตอบในทันที   

Siri มีความเป็นธรรมชาติ ยืดหยุ่น และผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับประสบการณ์ทั้งระบบมากขึ้น และมาในดีไซน์ใหม่ที่จะส่องแสงเรืองๆ อย่างสวยงามบริเวณโดยรอบของขอบหน้าจอ iPhone, iPad หรือ CarPlay

Siri ยังมีความรอบรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มากขึ้น จึงสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติและการตั้งค่าของอุปกรณ์ Apple ได้ ผู้ใช้สามารถเรียนรู้ทุกเรื่อง ตั้งแต่การบันทึกวิดีโอหน้าจอ จนถึงวิธีง่ายๆ ในการแชร์รหัสผ่าน Wi-Fi

ผู้เขียน
ทีม iJournalist