เปิดประสบการณ์ตรง “ร้านตู้มือถือ”ยุคสมาร์ตโฟนแข่งกันเดือด
เปิดเส้นทางธุรกิจร้านตู้มือถือรุ่นบุกเบิกจากพนักงานออฟฟิศสู่เจ้าของตู้ สร้างรายได้หลักหมื่นสู่หลักล้าน โดยมี “คอมมี่” เป็นพันธมิตร
ย้อนไปยังยุคที่เริ่มใช้โทรศัพท์มือถือ ร้านขายโทรศัพท์มือถือ หรือ “ร้านตู้มือถือ” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างรายได้ผลกำไรเป็นกอบเป็นกำ
มีพนักงานออฟฟิศหลายคนหันมาเปิดร้านตู้มือถือ ทั้งเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริม
เริ่มจาก 1 สาขาสู่ 18 สาขาทั่วกรุง
“พุทธิวงศ์ พงษ์เพียจันทร์” จากพนักงานออฟฟิศที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของกิจการร้านตู้มือถือ “วันอินเตอร์” ผ่านมา 27 ปี จาก 1 สาขา สู่ 18 สาขา ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล สร้างรายได้ 7-8 ล้านต่อเดือน เติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ในยุคการแข่งขันสูง เพราะมีพันธมิตรที่ดีอย่าง “คอมมี่” คอยซัพพอร์ต
พุทธิวงศ์ พงษ์เพียจันทร์ วัย 57 ปี เจ้าของร้านวันอินเตอร์ ให้บริการงานซ่อม และ จัดจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟน เล่าว่า จุดเริ่มต้น “ร้านตู้มือถือ” เกิดขึ้นเมื่อปี 2539 ขณะนั้นยังคงเป็นพนักงานออฟฟิศ ตำแหน่งช่างซ่อม เป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีความใฝ่ฝันอยากสร้างเนื้อสร้างตัว มีกิจการเป็นของตนเอง
จึงได้ศึกษาหาความรู้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งพบธุรกิจที่น่าสนใจคือ “ร้านตู้มือถือ“ เนื่องจากในสมัยนั้นโทรศัพท์มือถือกำลังบูมในประเทศไทย แต่ช่องทางการจำหน่ายยังมีจำกัด ซึ่งส่วนใหญ่จะขายผ่านแบรนด์และร้านตู้ ประกอบกับราคาที่สูง รวมถึงความถี่ในการออกรุ่นใหม่ยังน้อยกว่าในปัจจุบัน ผู้คนจึงนิยมใช้บริการร้านตู้ทั้งซื้อและซ่อม
เมื่อลาออกจากงานประจำ มาเปิดร้านตู้มือถือ ได้นำความรู้ด้าน ช่างซ่อม มาปรับใช้ทำธุรกิจ ตั้งแต่เป็นตัวแทนขายเครื่องโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ และงานซ่อมบำรุง ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเปลี่ยนแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ ที่ถือเป็นรายได้หลักจากธุรกิจในขณะนั้น
จุดเด่นที่ทำให้แตกต่างคือ ร้านเลือกใช้แบตเตอรี่จากแบรนด์คอมมี่ ที่มีคุณภาพดีที่สุดในตลาดตอนนั้น ทำให้พูดกันปากต่อปาก ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก จากนั้นได้ขยายสินค้าให้หลากหลายมากขึ้นตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป อาทิ ฟิล์มกันรอย, หัวชาร์จ, สายชาร์จ, แบตเตอรี่, แบตเตอรี่สำรอง, หูฟังและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ
ปัญหาใหญ่ของตู้มือถือ
ยุคดิจิทัลอุตสาหกรรมไอทีเกิดการเปลี่ยนแปลง จากโทรศัพท์มือถือธรรมดาเปลี่ยนเป็นสมาร์ทโฟนเกิดการแข่งขันกันมากขึ้น จากเดิม 1 ปีจะออกรุ่นใหม่ 1 รุ่น กลายเป็น 1 ปี ออก 5 ซีรีส์
ปัญหาที่ร้านตู้มือถือพบ คือ
“สต๊อกบวม” เพราะต้องสต๊อกสินค้าเป็นจำนวนมาก เช่น ฟิล์มกระจกกันรอย ในสต๊อกก็ต้องลงสินค้าไว้รองรับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่ออกใหม่ ต้องมีทุกแบรนด์ฟิล์มกันรอยเพื่อให้ผู้บริโภคเลือก พอของเก่ายังขายไม่หมดก็ถึงฤดูกาลเปลี่ยนรุ่นของสมาร์ทโฟนแล้ว
“ช่องทางการขาย” เดิมสมาร์ทโฟนขายผ่านแบรนด์และร้านตู้เป็นหลัก ต่อมาก็ขยายไปสู่การขายร่วมกับโอเปอเรเตอร์ ขายผ่านช่องทางออนไลน์ ส่งผลให้ผู้บริโภคซื้อสมาร์ทโฟนผ่านร้านตู้น้อยลง ช่วงนั้นร้านตู้มือถือประสบปัญหาอย่างมาก บางร้านถึงขั้นต้องปิดกิจการ
“เพื่อความอยู่รอดจึงปรับตัวแบบ 360 องศา โดยเริ่มจากหันมาเน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟน (Mobile Gadget) เพิ่มมากขึ้น เพราะปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีราคาแพง ผู้บริโภคจึงต้องการอุปกรณ์ในการช่วยป้องกันที่ดี และไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงต้องการ หยิบ จับ ดูทดลอง สินค้าเหล่านี้ก่อนตัดสินใจซื้อ และในส่วนของสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนก็จำหน่ายแค่สมาร์ทโฟนระดับกลางราคาประมาณ 5,000-10,000 บาท จับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและกลุ่มผู้สูงวัยที่ไม่ต้องการฟังก์ชั่นเยอะและไม่ต้องการผูกติดกับสัญญาณค่ายโทรศัพท์“
พันธมิตรคือทางรอด
เจ้าของร้านวันอินเตอร์ บอกว่า การทำธุรกิจร้านตู้มือถือในช่วงนี้ “พันธมิตร” (Partnership) ทางธุรกิจมีความสำคัญมาก
พันธมิตรทางธุรกิจ จะช่วยซัพพอร์ตด้านต่างๆ ทั้งการให้เครดิตสินค้า การรับประกันสินค้า การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ เพื่อช่วยลดสต๊อก แบรนด์คอมมี่ เป็นพันธมิตรที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ฟิล์มไฮโดรเจลที่แข็งแรง ทนทาน ใช้ได้กับทุกจอสมาร์ทโฟน แทนฟิล์มกันรอยแบบกระจก และเครื่องตัดฟิล์มอัจฉริยะ สามารถตัดฟิล์มกันรอยทั้งแบบซูเปอร์ไฮโดรเจล และไฮโดรเจล ได้มากกว่า 8,000 แบบ
รองรับจอสมาร์ทโฟนทุกแบรนด์บนท้องตลาด หน้าจอโน๊ตบุ๊ค จอแท็บเล็ต จอ LCD รถยนต์ จอสมาร์ทวอทช์ จอเครื่องเล่นเกมนินเทนโด จอกล้องดิจิทัล และอีกมากมาย ที่จะช่วยลดปัญหาสต๊อกบวมได้ ร้านค้าไม่จำเป็นต้องสั่งฟิล์มทุกรุ่น ทุกแบบมาสต๊อกให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าอีกต่อไป
พุทธิวงศ์ แนะนำว่า ถ้ามองหาอาชีพเสริม ต้องการทำธุรกิจร้านตู้มือถือ สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ คือ
“ทำเลที่ตั้งร้าน” ต้องอยู่ในพื้นที่ที่คนเดินไปมาเป็นจำนวนมาก
“ทักษะการบริหารสต๊อกสินค้า” ต้องวางแผนให้เป็น คำนวณให้ดี
“พันธมิตรที่ดี” มองหาพันธมิตรที่ใส่ใจเรื่องคุณภาพของสินค้า และมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ
นี่คือ ประสบการณ์ตรงที่ทรงคุณค่าจากเจ้าของร้านวันอินเตอร์ ตู้มือถือรายได้ต่อเดือนเกือบสิบล้านบาทจาก 18 สาขาทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล
บรรณาธิการเทคโนโลยี
เบื้องหลัง Oceanic+แอปความลึก เปลี่ยนApple Watch Ultra เป็นไดรฟ์คอมพิวเตอร์
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้