ข่าวทั่วไป

อบต.หนองสนิททิ้งความจนด้วยเกษตรอินทรีย์

7 พฤศจิกายน 2565

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ อบต.จะมัดใจชาวบ้านแล้วจูงมือกันเดินไปสู่เป้าหมายด้วยกัน

เปลี่ยนชาวบ้านธรรมดาๆให้กลายเป็นวิทยากร  เป็นภูมิปัญญาพื้นถิ่น   

เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย ให้เป็นคณะทำงาน

วันนี้ อบต.หนองสนิท .จอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ทำสำเร็จแล้ว  ผ่านแปลงผักเกษตรอินทรีย์ จากโครงการส่งเสริมโอกาสทางการเรียนรู้และพัฒนาทักษะเยาวชนและแรงงานนอกระบบ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนตลอด 3 ปี จากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา  หรือ กสศ.

ปัจจุบัน พื้นที่สาธารณะประโยชน์ของ อบต.หนองสนิท เรียงรายไปด้วยแปลงผักเกษตรอินทรีย์ ทั้งต้นหอม คึ่นฉ่าย ผักชี กวางตุ้ง ผักบุ้ง  ฯลฯ  เขียวขจีอยู่ในมือมีพ่อๆ แม่ๆ  ที่ช่วยกันรดน้ำพรวนดินถอนวัชพืช พูดคุยหยอกล้อกันสนุกสนาน อยู่ในแปลงผักแห่งความสุข

แต่ไม่ใช่แต่ละคนจะสักแต่ว่า อยากปลูกอะไรฉันก็จะปลูก  สมาชิกของโครงการ ต้องปลูกผักแต่ละชนิดตามแผนการผลิตที่กำหนดไว้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อน ล้นตลาด หรือขาดแคลน

 

ปัจจุบันผักเกษตรอินทรีย์รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจาก อบต.หนองสนิท วางขายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สุรินทร์  มีรายได้แน่นอนจากการส่งผักอินทรีย์ไร้สารเคมีให้โรงเรียนและ โรงพยาบาลในอำเภอต่างๆ  

ผลจากการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยและต่อเนื่อง  นำไปสู่การประกาศเจตนารมย์ขับเคลื่อนศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ร่วมกันลดความเหลื่อมล้ำในจังหวัดสุรินทร์  จากความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัดที่ต้องการส่งต่อวิถีเกษตรอินทรีย์จากรุ่นสู่รุ่น ให้เป็นเกษตรอินทรีย์ทุกด้าน  เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน 

สมเกียรติ สาระ  หัวหน้าสำนักปลัด อบต.หนองสนิท ผู้รับผิดชอบโครงการบอกว่า  3 ปีที่ผ่านมาเริ่มต้นจากการลองผิดลองถูก เจอปัญหาผักออกมาซ้ำกัน ผักขาดแคลน จึงปรับใหม่ไปคุยกับโรงเรียนในพื้นที่ อบต.หนองสนิท ซึ่งทำโครงการอาหารกลางวัน ขอความร่วมมือปรับเปลี่ยนเมนูอาหารของน้องๆ ให้เหมือนกันทุกโรงเรียน  เช่น วันจันทร์เป็นผัดฟักทอง  เพื่อให้ง่ายต่อการวางแผนการผลิต  ปรับเปลี่ยนมาใช้ผักที่มีในพื้นที่ เพื่อลดการซื้อผักนอกพื้นที่ ซึ่งอาจมีสารเคมีปะปน

ผู้หลักผู้ใหญ่จาก กสศ.เมื่อลงพื้นที่ไปสัมผัสการทำงานของ อบต.หนองสนิท  ต่างเห็นภาพเดียวกันก็คือ  ความสามัคคี ความร่วมมือร่วมใจกัน  สามารถเชื่อมโยงทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาเสริมกันและกันกระทั่งกลายเป็นเสน่ห์ของการทำงานในโครงการนี้

เราจะเห็นข้าราชการตัวเล็กๆ  ระดับปฏิบัติในพื้นที่มาทำงานร่วมกันกับชาวบ้านอย่างมีความสุข

.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบและกรรมการบริหาร กสศ.  มองว่า  การเกษตรเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ  ซึ่งไม่มีทางหลุดพ้นกับดักความยากจนได้  แต่ อบต.หนองสนิทกลับทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากความยากจนมาสู่การมีรายได้อย่างยั่งยืน

ความสำเร็จนี้ เปรียบเป็นอำนาจเล็กๆ ที่อยู่ในพื้นที่ เป็นอำนาจของ อบต.หนองสนิท ในการบริหารจัดการ ที่มีความโดดเด่นคือ เข้าถึงประชาชนได้ด้วยการเมือง  ดึงอำนาจทางวิชาการเข้ามาช่วย และอำนาจของประชาชน  มาก่อให้เกิดรายได้อย่างน่าภาคภูมิใจ สามารถยกระดับคนธรรมดาให้กลายเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า

จากความสำเร็จดังกล่าว ของ อบต.หนองสนิท  นำไปสู่การเป็นศูนย์เรียนรู้หนองสนิทรุ่งเรืองเมืองเกษตรอินทรีย์  ซึ่งได้ออกแบบให้มีฐานการเรียนรู้ การผลิตผักอินทรีย์  การทำไข่ไก่อินทรีย์ การแปรรูปผลผลิต การบริหารจัดการสหกรณ์   โดย อบต.หนองสนิท

ฐานเรียนรู้ การทำอาหารปลา โดยพันธุ์เจียออแกนิก  การทอผ้ากี่เล็ก เส้นไหมธรรมชาติ โดยมูลนิธิขวัญชุมชน และฐานการสาวไหม โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

นี่คือหนึ่งในโมเดลการทำงานที่ประสบความสำเร็จของ กสศ.และอบต.หนองสนิท  ซึ่งทางฝ่ายบริหารโครงการเห็นพ้องกันว่า  ความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในพื้นที่  ใช้การประสานงาน ใช้ความร่วมมือมาเติมเต็มกันและกัน สามารถสร้างความแตกต่างและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

การที่ประชาชนในท้องถิ่นลุกขึ้นมาจัดการเรียนรู้ที่ตรงกับความต้องการ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบที่ดีบนฐานความรู้และสติปัญญา

จึงอยากเห็นรูปแบบการทำงาน ของ อบต.หนองสนิท

การศึกษา การเรียนรู้  เมื่อมาหลอมกันจึงเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลง

นำไปสู่ความสุขของกลุ่มเป้าหมาย

ความภาคภูมิใจของการทำงาน   

ผู้เขียน
ปรารถนา ฉายประเสริฐ

บรรณาธิการเทคโนโลยี

More read

Tags

  • ijournalist
  • กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
  • จังหวัดสุรินทร์
  • ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ
  • อบต.หนองสนิท
  • เกษตรอินทรีย์