รัก Galaxy Z Fold6 ไม่ชอบ Galaxy Z Flip 6
ทุกครั้งที่หยิบ Galaxy Z Fold ตัวเก่งออกมา ออกมาใช้ มักจะได้คำถามว่า ทำไมถึงใช้โทรศัพท์รุ่นนี้
ปีนี้ รุ่นล่าสุด คือ Galaxy Z Flip 6 และ Galaxy Z Fold 6 จุดเด่นอยู่ที่การอัปเกรดฟีเจอร์ใหม่ ใส่กล้อง 50 MP ภาพคมชัดมากขึ้น ฟีเจอร์ Galaxy AI
จอพับแข็งแรงทนทานกว่าเดิม ถึง 2 เท่า ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความทนทาน ทนน้ำ ทนฝุ่นเป็นครั้งแรก พร้อมแบตเตอรี่อึดขึ้น
ระบบระบายความร้อน vapor chamber เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ
ไม่ขอลงรายละเอียด อยากรู้เพิ่ม https://smsng.store/Buy_GalaxyZFlip6
ผู้เขียนนั้นรัก Galaxy Z Fold มากกว่า Galaxy Z Flip เพราะตรงกับพฤติกรรมการใช้งานของตัวเองมากกว่า
กำเนิด Galaxy Z Fold
Galaxy Fold รุ่นแรก แจ้งเกิดเมื่อปี 2019 ซัมซุงประกาศพาผู้คนเข้าสู่ยุคใหม่ของโทรศัพท์สามารถพับได้ ในรูปแบบการพับและกางออก
ความหนาเมื่อพับ: 15.7 – 17.1 มม.
ความหนาเมื่อกางออก: 6.9-7.6 มม.
น้ำหนัก: 276 ก.
รูปทรงแหวกแนวไม่เหมือนใคร เป็นเครื่องแรกที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ แต่มีขนาดกะทัดรัดพกพาง่ายเมื่อพับ การ “พับและกางออก” กลายเป็นรูปแบบใหม่ของการใช้งานมือถือ
ในปีนั้นซัมซุงบอกว่า การพับเข้าด้านในไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยและใช้งานง่าย แต่ยังปกป้องจอแสดงผลอีกด้วย มือถือสามารถเปิดหรือปิดได้เหมือนเปิดหนังสือ แต่ยังคงแบนและบางเมื่อพับ มีขนาดเท่าฝ่ามือเพื่อความสะดวกสบาย
Galaxy Fold เครื่องแรกของ Samsung ประสบความสำเร็จ แม้จะมีความหนาสูงสุดหลังจากพับ 17.1 มิลลิเมตร ถือเป็นการเปิดตัวมือถือจอพับสุดอัจฉริยะครั้งแรก
ทั้งยังขายดิบขายดีแม้ราคาจะสูงลิบ
Galaxy Z Fold6
มีโอกาสจับรุ่นนี้อยู่ไม่นานนัก แม้ความรู้สึกแรกจะบอกว่า ไม่ว้าว แต่เมื่อนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันเหมือนที่เคยคุ้นเคยกับ Galaxy Z Fold รุ่นแรก ซึ่งกลายเป็นของแรร์ไอเท็มไปแล้ว ก็เห็นได้ชัดถึงความแตกต่างทั้งน้ำหนัก วัสดุ จอ การพับที่แนบเนียนมากขึ้น แนบสนิทมากขึ้น และกล้องที่ดีขึ้นกว่าเดิม (ห้ามเอากล้องไปเทียบกับ Galaxy S24 นะจ๊ะ อันนั้นกล้องขั้นเทพ)
เหมือนที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่า ทำไมใช้โทรศัพท์รุ่นนี้
คำตอบก็คือ แม้จะใช้ iPhone เป็นเครื่องหลัก แต่ในกระเป๋ามี Galaxy Z Fold6 พกติดตัวทุกครั้ง เอาไว้แก้ไขงานเขียน แก้ไขภาพ ข้อมูลอินโฟแบบด่วน ๆ วงปุ๊ปปั๊ป เวลาไม่ได้พก iPad
แต่ที่ขาดไม่ได้คือ เอาไว้อ่าน E-Book นวนิยายเรื่องโปรด ขนาดจอที่ใหญ่ทำให้อ่านง่าย ถือได้มือเดียวเหมือนถือหนังสือ เหมาะมากเวลาเดินทาง
ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องไม่มาก จอคุณภาพดี ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ ยืนบนรถไฟฟ้านี่ฟินมาก
ฟีเจอร์ AI
Live Translate แปลการสนทนาทางโทรศัพท์ได้โดยตรง
ฟีเจอร์ Interpreter Interpreter แสดงผลการแปลบทสนทนาบนทั้งหน้าจอหลักและหน้าจอฝาปิด ช่วยให้การสื่อสารเป็นธรรมชาติและเข้าใจกันได้
ทั้งสองฟีเจอร์นี้ การใช้งานต้องเชื่อมต่อเครือข่ายและเข้าสู่ระบบบัญชี Samsung ใช้ได้เฉพาะในแอปโทรศัพท์ Samsung ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าและแอปของบุคคลที่สามบางตัวเท่านั้น ภาษาบางภาษาอาจต้องดาวน์โหลดชุดภาษา ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่ได้รับประกันว่าเป๊ะ แต่ช่วยให้เข้าใจและไปต่อได้
ฟีเจอร์ Note Assist อันนี้ก็ใช้ประจำ จดโน๊ตสั้นๆ เวลาอยากขีดเขียนไอเดียฉบับย่อไว้ก่อน มีความสามารถถอดความ แปล และสรุปเสียงบันทึกได้ทันทีในขณะเดินทาง
ราคา
Galaxy Z Fold6 มีสีให้เลือก ได้แก่ Silver Shadow, Pink และ Navy ส่วน Galaxy Z Flip6 มีสีให้เลือก ได้แก่ Silver Shadow, Yellow, Blue และ Mint โดยสีพิเศษเฉพาะของซีรีส์ Galaxy Z ได้แก่ สีพิเศษของ Galaxy Z Flip6: Crafted Black, White, Peach และสีพิเศษของ Galaxy Z Fold6: Crafted Black, White
Galaxy Z Flip6 ความจุ 256GB ราคา 42,900 บาท ความจุ 512GB ราคา 47,900 บาท
Galaxy Z Fold6 ความจุ 256GB ราคา 63,900 บาท, ความจุ 512GB ราคา 68,900 บาท และความจุ 1TB ราคา 78,900 บาท สั่งซื้อ https://smsng.store/Buy_GalaxyZFlip6
บรรณาธิการเทคโนโลยี
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้