แกร็บฟู้ดยกระดับขอเป็น“ผู้ส่งมอบความอร่อยครบวงจร”
แกร็บฟู้ด พัฒนานวัตกรรมยกระดับ จาก “แพลตฟอร์มสั่งอาหาร” เป็น “ผู้ส่งมอบประสบการณ์ความอร่อยครบวงจร” เน้นเวลา ความสะดวก ราคา และสิ่งแวดล้อม
ช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทำให้ธุรกิจดิลิเวอรี่ทุกรายเติบโตแบบก้าวกระโดดมาก หลังจากสถานการณ์คลี่คลายทุกอย่างก็เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ หลายคนที่ไม่เคยสั่งอาหาร ไม่เคยเรียกรถผ่านแอป ก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน
มีโอกาสไปพูดคุยกับ คุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ซึ่งเล่าให้ฟังว่า ตลาดฟู้ดเดลิเวอรีมูลค่า 8.6 หมื่นล้านบาท ช่วงโควิดเติบโตหลายเท่า หลังโควิดปรับตัวลดลง แต่แกร็บยังเติบโตทรงตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ยังคงทรงตัวจากการปรับพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังสถานการณ์โควิด อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ยังคงเห็นการแข่งขันที่เข้มข้นของผู้เล่นรายต่างๆ ที่พยายามปรับกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์หลักของแกร็บฟู้ด ปี 2566
ยังคงเน้น 3 กลยุทธ์หลัก คือ
การนำเสนอบริการที่มีคุณภาพและความหลากหลาย (Quality & Wide Selection) ต้องรวมร้านอร่อย ร้านดังไว้ให้มากที่สุด
การสร้างฐานสมาชิกและความภักดีของผู้ใช้บริการ (Loyalty) ที่ผ่านมาภาพจำของผู้บริโภคคือ โปรโมชั่น จึงพยายามปรับเปลี่ยน ใช้ระบบสมาชิกมีส่วนลด
การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่งอาหารและสินค้า (Efficiency)
ทั้วงหมดนี้ สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจในระยะยาวภายใต้แนวคิด Building Sustainable Growth through Innovation
นวัตกรรม 4S
เวลาจะกินให้นึกถึงแกร็บ
แกร็บฟู้ด ใช้จุดแข็งในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี พัฒนาและปรับปรุงการให้บริการให้สอดคล้องกับอินไซต์และพฤติกรรมของผู้บริโภค แก้ไขข้อจำกัดนำไปสู่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บริการใน 4 มิติหลัก คือ ด้านเวลา ความสะดวก ราคา และสิ่งแวดล้อม
ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่อยู่ระหว่างการทดลองใช้ในแอปแกร็บ ดังนี้
S1: SAVE TIME (ประหยัดเวลา)
แกร็บพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการลดเวลาในการรอ ดังนี้
รับเองที่ร้าน (Self-pick up)
ให้สั่งอาหารหรือเครื่องดื่มผ่าน แอปพลิเคชัน Grab เพื่อไปรับเองที่หน้าร้านโดยไม่ต้องต่อคิว ช่วงทดลองตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่า 53% ของผู้ที่ใช้ฟีเจอร์นี้ ไม่ต้องการเสียเวลาต่อคิวเพื่อรอที่หน้าร้าน ได้รับความนิยมจากกลุ่มพนักงานออฟฟิศ
โดย 5 สถานที่ ซึ่งมีผู้ใช้ฟีเจอร์นี้มากที่สุด คือ สามย่านมิตรทาวน์ อาคารเดอะปาร์ค ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และสีลมเอจ
จากการทำวิจัยพบว่า ลูกค้าไม่อยากต่อคิวในร้าน เครื่องดื่ม พบว่าร้านอะเมซอน และสตาร์บั๊ก ได้ผลตอบรับที่ดี ทั้งในเชิงธุรกิจและด้านอื่น ทั้งสองร้านมียอดขายเพิ่มขึ้น 22% หลังจากใช้ฟีเจอร์นี้ ช่วยลดเวลาต่อคิวได้เกือบ 8 แสนนาที ลดขยะพลาสติกถึง 1.7 แสนชิ้น
สั่งอาหารล่วงหน้า (Order for later)
ให้สั่งอาหารได้ล่วงหน้าได้ถึง 7 วัน ระบุวันและเวลาที่ต้องการรับอาหารตามความสะดวก จากที่เริ่มทดลองบริการนี้ มีผลตอบรับที่ดี ร้านสามารถเตรียมตัว และจัดคิวได้ดีขึ้น เมื่อกดสั่งล่วงหน้าจะระบุวันเวลารับ สั่งข้ามวันได้ โดยเฉพาะใน ร้านดังๆ ที่มีคิวยาว
S2: SAVE EFFORTS (สะดวกสบาย)
สั่งอาหารแบบกลุ่ม (Group Order)
สั่งอาหารจากร้านเดียวกันรวมกันได้ผ่านออเดอร์เดียว ซึ่งได้รับความนิยมจากกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ชอบสั่งอาหารมารับประทานร่วมกัน คนแรกสั่งส่งลิงค์เชิญเพื่อน ได้ 10 คน หารค่าส่ง ทำให้ค่าส่งถูกลง
ทานที่ร้าน (Dine-In)
บริการใหม่ล่าสุดจากแกร็บที่ริเริ่มมาเพื่อรองรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้าน ครอบคลุมตั้งแต่การค้นหาและเช็ครีวิวร้านอาหาร ซื้อดีลส่วนลดสูงสุดถึง 40% ในรูปแบบ E-Voucher เรียกรถ ฟีเจอร์นี้ร้านอาหารสามารถนำมาใช้เป็นต่อยอดเป็นเครื่องมือการตลาดได้
S3: SAVE COST (ประหยัดเงิน)
นอกจากการทำระบบแพ็คเกจสมาชิก “GrabUnlimited” เพื่อสร้าง Loyalty ผ่านการมอบส่วนลด แกร็บพยายามพัฒนาบริการให้มีทางเลือกที่หลากหลายในด้านราคาค่าบริการ ซึ่งผู้ใช้ให้ความสำคัญมาก จึงเพิ่มดีลลดฟ้าผ่า (Flash Sale) จากร้านอาหาร ช่วยให้ร้านเล็กๆ ขึ้นมาอยู่บนเมนู flash sale
ส่งแบบประหยัด (Saver Delivery): ฟีเจอร์ที่เหมาะกับผู้ใช้บริการสั่งอาหารที่ไม่เร่งด่วนและต้องการประหยัดค่าส่ง โดยจะช่วยลดค่าส่งสูงสุด 50% เมื่อเทียบกับการจัดส่งแบบมาตรฐาน เริ่มใน 16 เมือง ค่าส่งถูกกว่าปกติ แต่เวลาได้รับอาหารจะนานขึ้น
S4: SAVE THE ENVIRONMENT (รักษ์โลก)
งดรับช้อน-ส้อมพลาสติก (Plastic Cutlery Opt-Out): ฟีเจอร์ที่ช่วยสนับสนุนให้ผู้ใช้บริการลดปริมาณขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งผ่านการเลือกไม่รับช้อนส้อมพลาสติก ซึ่งในปีที่ผ่านมา สามารถลดปริมาณขยะพลาสติกไปแล้วกว่า 8,100 ตันจากการงดแจกช้อนส้อมพลาสติกรวมกว่า 898 ล้านชุดในทุกประเทศที่แกร็บให้บริการ
ชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset): ฟีเจอร์ที่ชวนให้ผู้ใช้บริการร่วมบริจาคเงิน 1 บาท
ในทุกออเดอร์เพื่อสมทบทุนในการปลูกต้นไม้ ซึ่งจะช่วยชดเชยปริมาณคาร์บอนจากการส่งอาหารด้วยรถจักรยานยนต์
ที่ผ่านมาแกร็บได้สนับสนุนการปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 2 แสนต้นทั่วภูมิภาค เช่น ในจังหวัด กระบี่ และแม่ฮ่องสอน ช่วยให้ชาวบ้านที่ดูแลต้นไม้ มีรายได้
ฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้ บางอันอาจจะอยู่ในช่วงทดลองใช้ แต่ผู้บริหารแกร็บประเทศไทยบอกว่า จะใช้งานจริงทุกอัน โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งโดยส่วนตัวให้ความสำคัญมาก ฟีเจอร์รับเองที่ร้าน (Self-pick up) ทำให้เห็นได้ชัดว่า ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกได้มาก จากเดิมที่ร้านกาแฟต้องแยกน้ำแข็ง แยกน้ำ เพื่อให้ไรเดอร์นำไปส่งถึงมือลูกค้า แต่ฟีเจอร์นี้ก็แค่ชงใส่แก้วตามปกติ ถึงเวลาลูกค้าสก็มาจะมารับเอง ไม่เสียเวลาต่อคิวรอหน้าร้าน จึงได้รับความนิยมมากจากกลุ่มพนักงานออฟฟิศ ลดขยะพลาสติกได้ถึง 1.7 แสนชิ้น
โดยส่วนตัวมองว่า จะดียิ่งขึ้นถ้าแกร็บ ออกแบบอินเตอร์เฟซการใช้งานแบบดูสะอาดตา แบบน้อยแต่มาก ไม่ซับซ้อน เพื่อให้คนทุกวัย เข้าถึงได้ง่ายๆ ก็จะช่วยเสริมจุดเด่นเป็นเสน่ห์ของแกร็บได้อีกทาง
บรรณาธิการเทคโนโลยี
8 เทรนด์กระเบื้องมาแรงปี 2025 “From Nature to Life” เชื่อมโยงธรรมชาติกับชีวิต
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้