วันแม่ปี 2565 จะพาไปรู้จักพาร์ทเนอร์สองสาวคนขับแกร็บ ที่มีเรื่องราวเบื้องหลังน่าสนใจ สามารถส่งต่อพลังใจ ส่งต่อความแข็งแกร่งในวันที่เหน็ดเหนื่อยได้
สาวแกร่ง หมอน – ศรีสมร เจริญสุข คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยอมลำบากทุกอย่างเพื่อส่งเสียให้ลูกๆ มีอนาคตที่สดใส
อ๋อย–สุจิตรา ปราชญ์เปรื่อง ลูกกตัญญูที่ไม่เคยหยุดทำงานเพื่อหาเลี้ยงแม่ผู้พิการ
คุณแม่นักสู้ ทำงานปลดหนี้เพื่อลูก
คุณหมอน–ศรีสมร เจริญสุข คุณแม่ลูกสองวัย 57 ปีจากเชียงราย เป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังตั้งแต่ลูกสาวคนเล็กอายุได้เพียง 3 ขวบ เมื่อก่อนทำขนมไทยขาย แต่มีภาระค่าใช้จ่ายมาก จึงไปกู้เงินนอกระบบมาเพื่อใช้หมุนเวียนในครอบครัว กลายเป็นหนี้ก้อนโต รายได้ที่หามาได้กลายเป็นเงินที่พอใช้อยู่รอดไปวันๆ
จุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อลูกสาวคนเล็กกำลังจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยต้องใช้เงินจำนวนมาก
“ในวันที่ลูกสาวบอกว่า สอบติดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในสาขาวิชาแอนนิเมชันและวิชวลเอฟเฟกต์ทั้งปลื้มใจและภูมิใจในตัวเขามาก แต่ในขณะเดียวกันก็เครียดและกดดัน เพราะรู้ว่าสิ่งที่ตามมาคือค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แม้ว่าตอนนั้นลูกสาวจะกู้ กยศ. อยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ในฐานะคนเป็นแม่เราจะยอมแพ้ไม่ได้เพราะอนาคตของลูกคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตอนนั้นรู้สึกมืดแปดด้านมากเพราะรายได้จากการขายขนมเริ่มจะไม่พอ จนวันหนึ่งเรามองไปบนถนนเห็นคนขับแกร็บขับส่งอาหาร เลยคิดว่าเราน่าจะขับได้นะ จึงตัดสินใจลองมาขับแกร็บหารายได้เสริมดู”
รายได้จากการขับแกร็บดีกว่าการขายขนม จึงตัดสินใจมาขับแกร็บเต็มตัว ทำให้ปลดหนี้นอกระบบได้ มีเงินส่งให้ลูกเรียน มีเงินเก็บที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่สำคัญคือมีเวลาให้กับลูกมากขึ้น
“วันนี้มีเงินและเวลามากพอที่จะพาลูกไปเที่ยว และกินอาหารอร่อยๆ เป็นความสุขที่หาอะไรมาทดแทนไม่ได้เลยจริงๆ” แม่หมอน ยิ้มปลื้ม
“รอยยิ้มของแม่” คือความสุข
อ๋อย–สุจิตรา ปราชญ์เปรื่อง ลูกสาวกตัญญูวัย 39 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่กับแม่อายุ 80 ปีซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวชและขาพิการ
อ๋อย บอกว่า ตั้งแต่จำความได้แม่ก็ป่วยเป็นโรคทางจิตเวชมาตลอด พ่อจะเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวส่วนเธอมีหน้าที่ดูแลแม่ในช่วงก่อนและหลังเลิกเรียน แต่พ่อจากไปตอนเธออยู่ ม.5 จึงกัดฟันเรียนให้จบม.6 แล้วเอาวุฒิมัธยมฯ มาทำงานหาเงินมาดูแลแม่ตั้งแต่นั้นมา
“ก่อนที่แม่จะเดินไม่ได้ แม้จะมีอาการป่วยทางจิตเวช แต่แม่ก็ช่วยเหลือตัวเองได้ ยังกินข้าวเองได้ทำงานบ้านต่างๆ ได้ แม่ชอบซักผ้าให้เราด้วยนะ แต่พอแม่ล้มจนเดินไม่ได้ จึงมองหางานที่ทำให้มีเวลาดูแลแม่ได้มากขึ้น ลองมาหลายอาชีพ แต่ไม่มีอาชีพไหนที่มีความยืดหยุ่นเรื่องเวลามากเท่ากับงานนี้อาการของแม่เอาแน่เอานอนไม่ได้ คงไม่มีอาชีพไหนที่ทำให้เราได้กลับมากินข้าวที่บ้านกับแม่ในทุกๆ วันเหมือนการขับแกร็บอีกแล้ว”
การเติบโตมากับคุณแม่ที่ไม่เหมือนคนอื่นได้หล่อหลอมให้คุณอ๋อยเป็นคนคิดบวกเพื่อที่จะก้าวผ่านสายตาและคำนินทาของคนอื่นไปได้ ซึ่งพลังใจสำคัญของเธอก็คือคุณแม่ของเธอนั่นเอง
ประโยคที่เเม่ชอบพูดให้กำลังใจในวันที่มีปัญหาชีวิตเมื่อสิบปีที่แล้วว่า ‘ไม่เป็นไรลูก เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ’ ซึ่งเป็นคำพูดที่จำไว้ใช้เตือนตัวเองจนทุกวันนี้
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้