กรีนเยลโล่ประกาศพร้อมขับเคลื่อนพลังงานสะอาดในไทยทั้งออกแบบ-ลงทุน

กรีนเยลโล่ ‘ขับเคลื่อนพลังงานสะอาดในไทย เดินหน้าในกลุ่มเป้าหมายหลัก ทั้งภาคเอกชนการควบรวมกิจการ และสาธารณูปโภคภาครัฐ 

 บริษัท กรีน เยลโล่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านโซลูชันพลังงานสะอาดระดับโลก  ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในประเทศไทย  การปรับเปลี่ยนสู่พลังงานสะอาดไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองต่อข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก

ประกาศความพร้อมเป็น ‘พันธมิตรอัจฉริยะด้านพลังงาน’ (Smart Energy Partner) แบบครบวงจร ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจไทยสามารถลดต้นทุนพลังงาน บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน และก้าวสู่อนาคตพลังงานสะอาดได้อย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ

กรีน เยลโล่ มุ่งมั่นนำเสนอแพลตฟอร์มพลังงานอัจฉริยะแบบครบวงจร (Smart Energy Platform) เพื่อสนับสนุนพร้อมเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งเคียงข้างภาคธุรกิจไทยในการลดการปล่อยคาร์บอน ผ่านการบูรณาการพลังงานสะอาด โซลูชันการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และระบบกักเก็บพลังงาน ด้วยการนำเสนอโซลูชันแบบบูรณาการให้แก่ลูกค้าองค์กร ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ลดการปล่อยคาร์บอน และปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานไฟฟ้าจากฟอสซิลสู่พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตพลังงานที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ มีความยืดหยุ่น และมีความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แพลตฟอร์มการให้บริการดังกล่าว กรีน เยลโล่ นำเสนอโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โซลาร์บนหลังคาโรงงาน (Rooftop Solar) โซลาร์บนหลังคาที่จอดรถ (Solar Carport) โซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) และฟาร์มโซลาร์ (Solar Farm) ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างเหมาะสม

ด้วยแนวคิด ‘เปลี่ยนผ่านพลังงานแบบไร้ต้นทุน’(Zero Capital Energy Transition) กรีน เยลโล่ได้นำโมเดลธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์นี้มาประยุกต์ใช้กับบริการทุกรูปแบบ โดยบริษัทฯ เป็นผู้ออกแบบ ลงทุนในระบบพลังงานทดแทนให้ทั้งหมด 100% ติดตั้ง และบริหารจัดการทรัพย์สินตลอดอายุสัญญาอย่างครบวงจร ช่วยให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมสามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดได้โดยไม่ต้องลงทุนเอง

นางจีรภา คงสว่างวงศา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจและการตลาด บริษัท กรีน เยลโล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและต้นทุนพลังงานที่ผันผวน การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับองค์กรที่มีวิสัยทัศน์และต้องการก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ขณะที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ และภาคธุรกิจไทยก็มีความตื่นตัวอย่างมากในการนำพลังงานสะอาดมาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดี กรีน เยลโล่ เล็งเห็นถึงโอกาสและความท้าทายเหล่านี้ จึงพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด”

“ เริ่มเห็นเทรนด์ลูกค้าในไทย  การลงทุนขั้นต่ำประมาณ  30 ล้านบาทต่อโครงการ กรีนเยลโล่มีแหล่งเงินทุนจากธนาคารเพื่อการลงทุนจาก ฝรั่งเศส  ในตลาดมีลูกค้าหลายขนาด ที่มองหาการใช้พลังงานสะอาด เพื่อลดต้นการใช้ไฟ สามารถทำให้ลดต้นทุนได้ถึง 20-35%    กรีนเยลโล่ ชำนาญด้านนี้ ก่อนโลกจะกำหนดเป้าหมายด้านพลังงานทดแทน ในไทยแม็คโครเป็นลูกค้ารายแรก  การที่ภาครัฐ เปิดให้เอกชนเข้าร่วมด้านพลังงานมากขึ้น  จะทำให้ประเทศเกิดการเติบโต  มีการลงทุนใหม่ๆ เช่น ดาต้า เซ็นเตอร์ ระดับโลก จะเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ประมาณ 2,000 เมกะวัตต์“ 

ปี 2568  กรีน เยลโล่  ประสบความสำเร็จด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งใหม่กว่า50 เมกะวัตต์ พร้อมตั้งเป้ารายได้ฝั่งโซลาร์จะเติบโตถึง 38% และฝั่งการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจะเติบโตกว่า 600% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้วยประสบการณ์การทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งการผลิต ค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม และโลจิสติกส์

บริษัทฯ ได้ติดตั้งระบบพลังงานสะอาดรวมกว่า 210 เมกะวัตต์ ช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มากกว่า 450ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 140,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี กรีน เยลโล่ ตั้งเป้าที่จะปิดปี 2568 ด้วยโครงการรวมทั้งสิ้น 250 โครงการ

default

กรีน เยลโล่ ได้วางกลยุทธ์การเจาะตลาด 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มผู้บริโภคภาคเอกชน (Private Consumption) ซึ่งเป็นฐานลูกค้าเดิมที่บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งและจะขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น กลุ่มการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) โดยมุ่งเน้นการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มสัดส่วนรายได้อย่างมีนัยสำคัญ และกลุ่มสาธารณูปโภค (Utilities) ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะสถานที่ขององค์กรภาครัฐ มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล ที่มีความต้องการลดต้นทุนพลังงานและส่งเสริมความยั่งยืน

“การขยายสู่ 3 กลุ่มเป้าหมายหลักนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเรา โดยเรามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนความท้าทายด้านพลังงานให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ ด้วยโมเดลที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน แนวทางนี้ไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดต้นทุน แต่ยังสนับสนุนการก้าวไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนร่วมกัน และสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศไทยในระยะยาว” นางจีรภา กล่าวทิ้งท้าย

คำปรึกษาด้านโครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ www.greenyellow.co.th