โครงการการขยายผลเครือข่ายอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาศักยภาพคนพิการเพื่อการประกอบอาชีพ ผ่านโมเดลการฝึกอบรม-ฝึกงานคนพิการ มจธ. HigherEd for PWD ระยะที่ 1 เป็นโครงการขยายผลเครือข่ายอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพคนพิการสู่การประกอบอาชีพในตลาดแรงงานจริง ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และมหาวิทยาลัยเครือข่าย 5 แห่ง ประกอบด้วย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี
ปิดโครงการระยะที่ 1 ต่อยอด-ขยายผลความสำเร็จ
งานปิดโครงการฯ ระยะ ที่ 1 จัดที่อาคารการเรียนรู้พหุวิทยาการ (LX) มจธ. บางมด กรุงเทพฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กล่าวในงานและให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมภายหลังว่า โครงการการขยายผลเครือข่ายอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาศักยภาพคนพิการเพื่อการประกอบอาชีพ ผ่านโมเดลการฝึกอบรม-ฝึกงานคนพิการ มจธ. HigherEd for PWD ซึ่ง มจธ.มีประสบการณ์ทำงานฝึกอาชีพผู้พิการมานานถึง 10 ปี เป็นโครงการที่ทำให้รู้สึกดีใจที่ทำให้สังคมมองเห็นศักยภาพของผู้พิการมากขึ้น
“ในสภาวะของประเทศที่เด็กเกิดใหม่น้อยลงมาก กระทรวงพม.และเครือข่าย กำลังเร่งสร้างกำลังแรงงาน คุณภาพให้สังคมไทย เปรียบเหมือนได้เงินหมื่นตลอดชีพ เป็นรายได้จากการทำงาน ไม่ต้องออกนอกภูมิลำเนา โครงการระยะที่ 1 ซึ่งเริ่มเดือนมีนาคม 2567 มีผู้พิการมีงานทำ 252 คน ขอบคุณสถานประกอบการที่กล้าหาญรับผู้พิการเข้าทำงาน เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม.อยากเห็นผู้พิการเข้าถึงสิ่งต่างๆ มีศักยภาพเป็นที่ยอมรับ ซึ่งโครงการนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่า เส้นบางระหว่างผู้พิการและคนปกติค่อยๆ จางไป เพราะงานบางอย่างผู้พิการมีศักยภาพมากกว่าคนปกติ โดยมีเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ
การทำงานโครงการระยะ 2 กระทรวง พม.จะต่อยอดความร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นการทำงานโดยมี โครงการของ พม.และมจธ.เป็นโมเดลต้นแบบ มีเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
วอนภาครัฐรับผู้พิการเข้าทำงานตามโควต้า
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุด้วยว่า ภาคเอกชนรับผู้พิการเข้าทำงานทั้ง มาตรา 33 และ 35 แต่ภาครัฐ มีเพียง 3 กระทรวงที่รับผู้พิการเข้าทำงานครบตามโควต้า หนึ่งในนั้นคือกระทรวง พม. จึงอยากขอร้องให้กระทรวงต่างๆ พิจารณารับผู้พิการเข้าทำงาน
เปิดโมเดล 6 ขั้นตอน พัฒนาอาชีพผู้พิการของ มจธ.
รศ. ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. กล่าวว่า รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรฝึกอาชีพคนพิการของ “โครงการฝึกอบรม-ฝึกงานคนพิการ มจธ.” ที่ มจธ. ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 ขยายผลผ่าน 5 มหาวิทยาลัยเครือข่าย เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่ง พัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมและฝึกงานที่ออกแบบมาให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน (Demand-Driven) ในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละแห่ง
“จากเดิมที่ มจธ. ดำเนินโครงการฝึกอาชีพให้คนพิการได้เฉลี่ยรุ่นละ 50 คน แต่เมื่อเริ่มโครงการ HigherEd for PWD ในปีแรก สามารถขยายการอบรมให้คนพิการจากทั่วประเทศได้ถึง 300 คน นอกจากช่วยเพิ่มโอกาสให้กับคนพิการมากขึ้นแล้ว ยังทำให้สถาบันและบุคลากรที่เข้าร่วมโครงการเข้าใจ โมเดล 6 ขั้นตอน ของการฝึกอาชีพคนพิการ ซึ่ง มจธ. ใช้เวลากว่า 10 ปีในการพัฒนา และสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของมหาวิทยาลัยและความต้องการของตลาดแรงงานในแต่ละพื้นที่”
ดร.อรกัญญาณี เลี้ยงอิสสระ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต มจธ. หัวหน้าโครงการฯ โมเดลหลัก 6 ขั้นตอน ที่ มจธ. ในฐานะพี่เลี้ยงโครงการฯ ได้มีการสนับสนุนมหาวิทยาลัยเครือข่ายทั้ง 5 แห่ง เพื่อจัดทำและฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาทักษะอาชีพให้กับคนพิการในพื้นที่ของตนเอง ประกอบด้วย
(1) การหารือกับสถานประกอบการเพื่อพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานและเหมาะสมกับคนพิการ
(2) การรับสมัครและคัดเลือกคนพิการตามคุณสมบัติของแต่ละหลักสูตร
(3) การฝึกอบรมและฝึกงานเป็นระยะเวลา 6 เดือน ครอบคลุมทั้งทักษะอาชีพ ทักษะการทำงานและการใช้ชีวิต และสร้างประสบการณ์ทำงานจริง
(4) การสนับสนุนการจ้างงานร่วมกับภาคีทั้งภาครัฐและเอกชน
(5) ระบบพี่เลี้ยงเพื่อติดตามและให้คำแนะนำ
(6) การเก็บข้อมูล วิเคราะห์ผลกระทบ และประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน
ซึ่งมหาวิทยาลัยเครือข่ายทั้ง 5 แห่งนำโมเดลนี้ ไปปรับใช้กับหลักสูตรของตนเองได้ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่
ผลลัพธ์นำไปสู่อาชีพและรายได้ ไม่เป็นภาระใคร
โครงการนี้เปิดโอกาสให้คนพิการได้เลือกเส้นทางอาชีพที่เหมาะสมกับตนเอง ผ่านหลักสูตร 2 แนวทางหลัก ได้แก่ หลักสูตรเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน สำหรับผู้ที่ต้องการทำงานในสถานประกอบการ
หลักสูตรอาชีพอิสระ สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้ด้วยตนเอง เช่น หลักสูตรการทำดอกไม้จันทน์ ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่ไม่ได้สอนแค่ผลิต แต่สอนวิธีจำหน่ายและสร้างรายได้ด้วยตัวเอง
ส่วน มจธ. มีบทบาทเป็น ‘พี่เลี้ยง’ คอยสนับสนุนและช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ สามารถหางานหรือเริ่มต้นอาชีพของตัวเองได้จริง
ทั้งนี้ ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการไม่ได้พิจารณาเพียงจำนวนผู้เข้าอบรม แต่ให้ความสำคัญกับรายได้ที่เกิดจากการจ้างงานและการประกอบอาชีพอิสระ
ผลลัพธ์จากรุ่นแรกที่มีผู้เข้าร่วม 300 คน พบว่า 84% สามารถประกอบอาชีพได้จริง ได้รับการจ้างงานในสถานประกอบการตามมาตรา 33 จำนวน 9 คน ทำงานภายใต้เงื่อนไขมาตรา 35 จำนวน 31 คน และอีก 212 คนประกอบอาชีพอิสระ โดยมีเครือข่ายมหาวิทยาลัยเป็นพี่เลี้ยงสนับสนุนการประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงตนเอง
ก้าวต่อไปขยายผลในระดับประเทศ
กระทรวง พม. กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือโครงการนำร่องการสนับสนุนให้สถานศึกษาเพื่อเพิ่มศักยภาพของคนพิการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการ ระยะที่ 2 เพื่อเชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการอย่างเป็นระบบ สร้างระบบฝึกอบรมที่เข้าถึงง่าย รองรับความต้องการที่หลากหลาย เปิดโอกาสให้คนพิการได้พัฒนาทักษะ มีงานทำ และมีอาชีพที่มั่นคง ที่สำคัญ
“ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือระยะสั้น แต่เป็นการวางรากฐานให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีความเท่าเทียม และมีโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น สอดคล้องกับแนวทาง “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ของรัฐมนตรี กระทรวง พม. และหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของประเทศไทย”
บรรณาธิการเทคโนโลยี
Lisa ทำไข่เจียวกุ้ง ฉลองเพลง Money ยอดสตรีมทะลุ1 พันล้านครั้ง
ครูแชมป์" ชวน ก ไก่ ให้กลายร่างเปลี่ยนวิชาภาษาไทยน่าเบื่อเป็นแสนสนุก
มจธ.ฉลองครบ 65 ปียกระดับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตเต็มรูปแบบ