หัวเว่ยวางกลยุทธ์สร้างนักพัฒนา ICT ไทยต่อเนื่อง
หัวเว่ยมั่นใจ ไทยมีศักยภาพเป็นเมืองที่สามารถพัฒนา AI ได้ต่อเนื่องจากเทคโนโลยี 5G
นายเจย์ เฉิน ประธานคณะกรรมการหัวเว่ย ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังงานปิดการแข่งขัน ICT Competition 2022-2023 ณ สำนักงานหัวเว่ย ประเทศไทย ถึงกลยุทธ์ในการพัฒนาบุคลากรดิจิทัลของหัวเว่ย จะเน้นสร้างนักพัฒนาด้านไอซีที 10,000 รายในปี พ.ศ. 2566
สร้างนักพัฒนาด้านคลาวด์ 20,000 ราย ให้ได้ภายใน 3 ปี (พ.ศ. 2566-2568)
หัวเว่ยนั้น มีเป้าหมายที่ชัดเจน ด้านการส่งเสริมการสร้างบุคลากรไอซีทีและนักพัฒนาด้านคลาวด์ของประเทศไทย ผ่านโครงการฝึกทักษะและพัฒนาทักษะด้านอาชีพ
สำหรับการพัฒนาบุคลากรไอซีทีนั้น ที่ผ่านมาได้พัฒนาเนื้อหาสำหรับฝึกอบรม การจัดสรรบุคลากรในการฝึกอบรม สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก และการให้คำปรึกษาตลอดโครงการ รวมไปถึงการมอบโอกาสให้แก่นิสิตนักศึกษาที่ได้เข้ามาฝึกงานกับหัวเว่ย ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าโครงการฝึกงานได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง
หัวเว่ยเชื่อมั่นว่า AI ในไทยจะพัฒนาต่อเนื่อง
เมืองหลักอย่างกรุงเทพฯ ประเทศไทย กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจสตาร์ทอัพ เพราะเมืองเหล่านี้มีเทคโนโลยี 5G มีศูนย์ข้อมูล และยังมีธุรกิจที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง AI จะเป็นเทคโนโลยีที่เติบโตได้ดีในกรุงเทพฯ
หัวเว่ยจึงมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ เพื่อพัฒนาโครงการด้านไอซีที ด้านคลาวด์ และสนับสนุนธุรกิจประเภทสตาร์ทอัพ
การต่อยอดกับภาครัฐ
นายปริวรรต วงษ์สำราญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมและวิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย (Startup Thailand) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้บอกเล่าถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือกับหัวเว่ย ทั้งสองโครงการ ดังนี้
โครงการ Start-ups Thailand League ในระดับมหาวิทยาลัย มีการพัฒนาองค์ความรู้ให้นิสิตนักศึกษา ระดับปริญญาตรี โทและเอก มีความเป็นผู้ประกอบการและต่อยอดได้ และมีการใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ยคลาวด์ ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน หรือเอไอได้ รวมไปถึง IoT ต่างๆ ด้วย ปีนี้หัวเว่ยได้คัดเลือก 3 ทีม ที่สามารถจะไปแข่งขันในระดับโลกได้
โครงการพัฒนาผู้ประกอบการ ที่เริ่มต้นทำธุรกิจแล้ว และอยากจะได้เทคโนโลยีหัวเว่ยคลาวด์ในการนำไปต่อยอด ไม่ว่าจะเป็น AI , IoT และคลาวด์
ขาดแคลนโปรแกรมเมอร์
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ มองว่า โปรแกรมในการพัฒนา ICT ของหัวเว่ยเป็นโปรแกรมที่ดีที่ จึงคิดว่าจะต่อยอดความร่วมมือร่วมกัน
ขณะนี้พบว่า ขาดแคลนโปรแกรมเมอร์ ประมาณหนึ่งล้านตำแหน่ง ต้อง พัฒนา Digital Workforce ด้วยการ Upskill, Reskill เพิ่มพัฒนาคนที่มีทักษะด้านดิจิทัลที่ดีอยู่แล้วและเข้าใจกระบวนการ เพื่อให้สามารถต่อยอดเทคโนโลยีใหม่ และกลายมาเป็นบุคลากรคนสำคัญได้
สตาร์ทอัพล้มแล้วลุก
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้รูปแบบการเข้าถึงลูกค้าเปลี่ยนไป สตาร์ทอัพหลายรายอาจจะไม่มีเงินลงทุนเพื่อเปลี่ยนแปลงธุรกิจได้เพราะลูกค้าน้อยลง แต่สตาร์ทอัพบางส่วนก็ไม่ได้หายไป เพียงแต่จะมีรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาและจะกลับมาอย่างเข้มแข็งกว่าเดิม เพราะมีเงินลงทุนจากนักลงทุนมากขึ้น เครือข่ายทั้งภาครัฐเอกชนก็พยายามจะเข้ามาสนับสนุนให้สตาร์ทกลับมาได้
ช่วงโควิดที่ผ่านมา พบว่าสตาร์ทอัพมากกว่า 50% ที่ไปไม่รอด
ภาครัฐต้องการส่งเสริมการทำธุรกิจด้วยการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาพัฒนาต่อยอดกับอุตสาหกรรมเพื่อสร้างพื้นฐานให้กับประเทศไทยพร้อมกับต่อยอดเทคโนโลยีร่วมกับหัวเว่ยในการพัฒนาโซลูชันบางอย่างที่สามารถแข่งขันหรือก้าวนำประเทศเพื่อนบ้านได้
AI จะเป็นตัวผลักดันสตาร์ทอัพในประเทศไทย
การแข่งขัน ICT Competition 2022-2023
ปีนี้ จัดแข่งขัน 2 ประเภท คือ คลาวด์ และเครือข่าย มีนักศึกษาเข้าร่วม 18 คน จำนวน 6 ทีม
ประเภทคลาวด์
รางวัลชนะเลิศ คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
รองชนะเลิศอันดับ 1 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
รองชนะเลิศอันดับ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ประเภทเครือข่าย
รางวัลชนะเลิศ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
รองชนะเลิศอันดับ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
รองชนะเลิศอันดับ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
บรรณาธิการเทคโนโลยี
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้