ในงาน LG World Premiere ณ เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นก่อนเริ่มงาน CES 2025 งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลระดับโลก
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (แอลจี) เปิดตัววิสัยทัศน์ใหม่เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้เหนือกว่า ด้วยการผสานเทคโนโลยี AI ภายใต้แนวคิด “Life’s Good 24/7 with Affectionate Intelligence: ชีวิตดีทุกเวลา ด้วยความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์”
บรรยากาศภายในงาน ออกแบบให้สะท้อนแนวคิด ‘ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์ (Affectionate Intelligence)’ ของแอลจีอย่างเต็มรูปแบบ
โดยพื้นที่ของเวทีถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนเพื่อจำลองสถานการณ์จริง แสดงให้เห็นถึงบทบาทของเทคโนโลยี AI ขั้นสูงของแอลจีที่สามารถเปลี่ยนชีวิตประจำวันให้ดียิ่งขึ้นในหลากหลายมิติ
ทั้งในพื้นที่ที่พักอาศัย พื้นที่การเดินทาง และพื้นที่เชิงพาณิชย์ ตอบสนองความต้องการในชีวิตจริงของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบัน
ตัวอย่างการใช้ชีวิตอัจฉริยะที่มีเสน่ห์
จะเป็นอย่างไร ถ้าเราเริ่มต้นวันในตอนเช้า เอเจนต์ AI ของแอลจีชื่อว่า FURON แสดงถึงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับผู้ใช้งานอย่างใส่ใจ โดย FURON พูดว่า “ฉันสังเกตว่าคุณไอเมื่อคืน จึงปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสมเพื่อความสะดวกสบายของคุณมากยิ่งขึ้น”
นอกจากการปรับสภาพแวดล้อมแล้ว FURON ยังสามารถให้คำแนะนำที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเช่น แนะนำให้ไปตรวจสุขภาพกับคุณแม่เมื่อไม่มีแผนในช่วงบ่าย
นอกจากนี้ยังช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นด้วยการแนะนำกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกดี
การเดินทางไปทำงานในตอนเช้า ระบบเซ็นเซอร์ภายในรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะตรวจจับเมื่อผู้ขับขี่ลืมแก้วกาแฟ โดยจะถามผู้ใช้งานว่า “คุณต้องการแวะร้านกาแฟที่อยู่ห่างออกไปเพียง 2 นาทีหรือไม่”
ระบบยังสามารถตรวจสอบสัญญาณชีพของผู้ขับขี่ เมื่อตรวจพบอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้นก่อนการประชุมช่วงบ่าย โดยระบบจะเปิดเพลงผ่อนคลายเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบายขึ้น แนะนำเส้นทางใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
และหากการจราจรติดขัดจนอาจทำให้พลาดการประชุมสำคัญ ก็จะแนะนำให้เข้าประชุมผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ภายในรถแทนอีกด้วย เมื่อมาถึงที่ทำงาน AI ยังสร้างความรู้สึกสนิทชิดเชื้อด้วยการแสดงภาพวิดีโอวันหยุดพักผ่อนกับครอบครัวที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้บนกล้องทั้งภายในและภายนอกรถ
หลังเลิกงาน โทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นที่ติดตั้งเทคโนโลยี AI จะช่วยยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้าน โดยวิเคราะห์สภาพแวดล้อมการรับชม รูปแบบ และประวัติการรับชม เพื่อแนะนำเนื้อหาที่เหมาะสมกับผู้ชม หากผู้ใช้งานบอกว่าได้ยินบทสนทนาไม่ชัดเจน AI จะปรับแต่งเสียง โดยเพิ่มความชัดเจนของเสียงพูดด้วยการแยกเสียงออกจากเสียงรบกวนโดยรอบ และทำให้ราวกับว่า เสียงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติจากกลางจอโทรทัศน์
การสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคอย่างไร้รอยต่อและครบวงจร
เบื้องหลังความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์
นี่คือ แนวทางใหม่ ยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อพลิกโฉมประสบการณ์ผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการเข้าใจความต้องการและตอบสนองได้อย่างแม่นยำ โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล
นายวิลเลียม โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอลจี ได้กล่าวในงานว่า แอลจี มุ่งมั่นที่จะบูรณาการเทคโนโลยี AI เข้ากับทุกมิติของพื้นที่การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัย การเดินทาง พื้นที่เชิงพาณิชย์ หรือแม้แต่โลกเสมือนจริง เรามองว่า แต่ละพื้นที่เหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ แต่เป็นสภาพแวดล้อมที่สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้คนได้อย่างแท้จริง”
“อุปกรณ์และบริการต่างๆ ของแอลจีจะทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่ผู้บริโภค นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่า ความอัจฉริยะที่มีเสน่ห์ (Affectionate Intelligence) ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้แอลจีเปล่งประกายอย่างโดดเด่น และแตกต่างอย่างชัดเจน”
3 องค์ประกอบสำคัญของ Affectionate Intelligence
ได้แก่ อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย (Connected Devices), เอเจนต์ AI อัจฉริยะ (Capable AI Agents) และบริการที่ผสานเป็นหนึ่งเดียว (Integrated Services)
อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย
แอลจีซื้อกิจการของ Athom ผู้ให้บริการโซลูชันบ้านอัจฉริยะเมื่อปีที่ผ่านมา สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT จากแบรนด์ชั้นนำกว่า 170 แบรนด์ทั่วโลก ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะของแอลจีได้อย่างไร้รอยต่อ
เอเจนต์ AI อัจฉริยะ
แอลจีเตรียมยกระดับ LG FURON เข้ากับการตรวจจับพื้นที่แบบเรียลไทม์และการวิเคราะห์เชิงลึกจากรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภค นวัตกรรมนี้สามารถเข้าใจสถานการณ์และบริบทของผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ พร้อมประสานการทำงานระหว่างอุปกรณ์และบริการต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์และตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ภายใต้การปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่เข้มงวด
บริการครบวงจรด้วย AI
ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผ่านการผสมผสานผลิตภัณฑ์ของแอลจีและข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้าในหลากหลายพื้นที่เช่น ที่พักอาศัย การเดินทาง และพื้นที่เชิงพาณิชย์ เข้ากับเทคโนโลยี AI ของไมโครซอฟท์ เพื่อนำไปสู่การให้บริการแบบครบวงจรด้วย AI ที่เข้าใจความรู้สึกของผู้ใช้งาน
ไมโครซอฟท์และแอลจีกำลังทำงานร่วมกัน
นายจัดสัน อัลธอฟฟ์ (Judson Althoff) รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า ไมโครซอฟท์เชื่อว่า AI จะช่วยพลิกโฉมวิถีชีวิตและการทำงานของเรา
ทั้งสองบริษัทกำลังร่วมมือกันเพื่อพัฒนา ‘เอเจนต์ AI’ สำหรับการใช้งานในหลากหลายพื้นที่เช่น ที่พักอาศัย ยานพาหนะ โรงแรม และสำนักงานบริษัท โดยแอลจีได้นำเทคโนโลยีการจดจำเสียงและการสังเคราะห์เสียงของไมโครซอฟท์มาใช้กับ Self-Driving AI Home Hub ซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อภาษาพูดได้หลายสำเนียงและรูปแบบการสนทนา
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะพัฒนาเอเจนต์ AI ที่ไม่เพียงแต่โต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างราบรื่น แต่ยังสามารถคาดการณ์ความต้องการและความชอบของลูกค้าได้ล่วงหน้า
ความร่วมมือนี้ยังขยายไปยังศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยแอลจีจะนำเทคโนโลยีการจัดการความร้อนและเครื่องทำความเย็นขั้นสูงมาปรับใช้กับศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญนี้ ทั้งสองบริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
กรมวิทย์ฯ บริการเสริมแกร่งห้องปฏิบัติการทั่วไทยให้ได้มาตรฐานสากล
ยูนิโคล่ และ UNHCR ทำเสื้อยืดการกุศล คอลเลคชัน “HOPE AWAY FROM HOME”
มีไอเดียเด็ดๆ เอามาปล่อยในโครงการ Swift Student Challenge 2025