ในประเทศไทยมีคนพิการมากกว่า 1.7 ล้านคน มีเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีงานทํา
นั่นคือปัญหาที่ จูน เมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ คิดว่า เธอจะช่วยแก้ปัญหาได้
จูน ผู้ร่วมก่อตั้ง Vulcan Coalition ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ สัตยา นาเดลลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมโครซอฟท์ ที่งาน Microsoft APAC Innovators Forum ที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อเร็วๆ นี้ เล่าให้ฟังว่า Vulcan Coalition มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบริการ AI ใหม่ๆ ที่เป็นภาษาไทยพร้อมๆไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ
จาก การศึกษาทางประสาทวิทยา พบว่า บุคคลที่มีความพิการทางการมองเห็นหรือการได้ยิน บางคนมีประสาทส่วนการรับรู้ที่พิเศษกว่าบุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นการชดเชยความบกพร่องของระบบประสาทในส่วนที่เสียไป
“เราได้เรียนรู้ว่าคนพิการเสมือนจะมีพลังพิเศษ จึงเห็นโอกาสที่จะจับคู่พวกเขากับงานประเภทนี้“
การจับคู่งานดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาสําคัญในประเทศไทยซึ่งเป็นที่ตั้งของสตาร์ทอัพ กำลังขาดแคลนพนักงานที่สามารถสอนจากการป้อนข้อมูลที่ถูกต้องจํานวนมากเพื่อสร้างออกมาเป็นรูปแบบภาษาไทย
การ label หรือการป้อนและกํากับข้อมูลเกี่ยวข้องกับการระบุข้อมูลดิบ เช่น ไฟล์เสียงหรือวิดีโอ และการเพิ่มป้ายกํากับข้อมูลสําหรับบริบท
สิ่งนี้ทําให้โมเดลแมชชีนเลิร์นนิงเรียนรู้จากข้อมูล ซึ่งช่วยให้แอปต่างๆ เช่น บริการแชทบอท และการรับรู้จดจําเสียง (voice recognition)
ดังนั้น เมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ และ นิรันดร์ ประวิทย์ธนา ผู้ร่วมก่อตั้ง ได้พัฒนาหลักสูตรที่สามารถนําเสนอต่อรัฐบาลไทยเพื่อแสดงให้เห็นว่าคนพิการสามารถปฏิบัติงานได้ดีในฐานะผู้ป้อนข้อมูล หรือ data labeler หลังจากได้รับการพัฒนาทักษะ และสามารถป้อนข้อมูลที่ถูกต้อง
วัลแคนร่วมมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน 2,000 คน ฝึกสอนทักษะในการป้อนข้อมูล โดย Vulcan Academy จะทำหน้าที่ฝึกอบรมและทดสอบผู้สมัครที่มีศักยภาพ
“ตอนที่เราบอกครั้งแรกว่า ต้องการจ้างเป็นผู้ปรับคุณภาพข้อมูล พวกเขากลัวนิดหน่อย เพราะไม่เคยทำมาก่อน มีคนบอกพวกเขาว่า ไม่สามารถทํางานหลายประเภทได้ เราต้องโน้มน้าวให้พวกเขาเรียนหลักสูตรนี้ แต่ตอนนี้มันเป็นสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้ เพราะเขาสามารถบอกคนอื่นว่า ทํางานที่มีมูลค่าสูงนี้ได้สำเร็จ“
ปุณพจน์ เอื้อพลิศาน์ หรือวิน เป็นวิศวกรซอฟต์แวร์อาวุโสที่พิการทางสายตา ทำงานเป็นพนักงานประจำที่ วัลแคน โคอะลิชั่น เขาช่วยสร้างแพลตฟอร์มที่บุคคลทั่วไปใช้ในการป้อนข้อมูลผ่านการแปลงคําพูดเป็นข้อความและกระบวนการอื่นๆ และนับเป็นส่วนสําคัญในการช่วยบริษัทที่กําลังพัฒนาโปรแกรม AI หลังจากนี้เป็นต้นไป
“ผมชอบคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่เด็ก จึงเรียนสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หลังจากสําเร็จการศึกษาผมก็ได้พบกับหัวหน้าเจ้าหน้าที่วิจัยที่วัลแคน ซึ่งจัดตั้งแผนกวิศวกรรมของคนพิการ จึงเข้าร่วมทีม ทําผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มมากมายโดยเปิดให้ผู้พิการที่ฝึกสอน AI ใช้ระบบของเรา“
ภารกิจระดับโลกของไมโครซอฟท์ในการช่วยให้ทุกคนและทุกองค์กรบนโลกใบนี้ให้ประสบความสําเร็จมากขึ้นได้หยั่งรากลึกผ่าน AI for Good ซึ่งเป็นแคมเปญระดับโลก โดยดึงเอาความสามารถทางเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบจากแพลตฟอร์ม Microsoft Cloud และ AI เพื่อทําให้โลกมีความยั่งยืนและเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยี
สำหรับวัลแคน โคอะลิชั่น รับการสนับสนุนจากไมโครซอฟท์ ในการนำ AI เข้ามาสร้างโอกาสให้ผู้พิการ
วัลแคนยังได้รางวัลชนะเลิศ Thailand Virtual Hackathon จากการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการสามารถตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย อาการป่วยและเช็คอินเมื่อเข้าสู่สถานที่หรืออาคารต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ ทั้งยังสามารถใช้กล้องตรวจสอบว่า แต่ละคนใส่หน้ากากอยู่หรือไม่ ด้วยระบบ AI ที่ทำงานอยู่บนแพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Cloud
ทีมวัลแคน ได้ให้สมาชิกที่หูหนวกทำการสอน กํากับและฝึก AI โดยฝึกจากข้อมูลภาพ
ปัจจุบัน วัลแคน กำลังทำงานให้ธนาคาร แผนกบุคคลของหลายองค์กร และบริษัทรีเทลของแต่งบ้านโดยการสร้าง AI แชทบอทและ กระบวนการการทำงานที่ใช้ AI เป็นผู้ช่วย มีการใช้งานทั่วประเทศ
ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จากบริการ AI ของ Vulcan จะถูกแบ่งให้กับพนักงานเพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
ในประเทศไทยรัฐมีนโยบายให้บริษัทจ้างพนักงานผู้พิการ 1 คนต่อพนักงานทุกๆ 100 คน ในบางกรณี ที่เนื้องานไม่ตรงกับผู้พิการ หลายๆบริษัท เพียงแค่จ่ายเงินให้กับบุคคลและไม่ได้เสนอโอกาสในการทํางานที่แท้จริง800
สําหรับ Vulcan การเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ที่กระตือรือร้นที่จะใช้แรงงานที่มีทักษะอย่างแท้จริง ทำให้สามารถประเมินได้ว่าภายในสองปีหลังจากเริ่มโปรแกรม บริษัทจะจับคู่คนพิการ 600 คนเข้ากับงาน AI สําหรับคนทำงานผู้พิการแล้วมันเป็นแหล่งรายได้ที่สง่างาม สร้างโอกาสมากมายจากการได้รับการฝึกฝนทักษะด้านเทคโนโลยีที่มีความต้องการสูง
“พนักงานของเรารู้สึกทึ่งกับโครงการของเรามาก พวกเขาต้องการรู้ว่ามันเป็นอย่างไรและผลงานจะถูกใช้อย่างไรในอนาคต พวกเขาสนใจและภูมิใจในสิ่งที่พวกเขากําลังทํามากๆ “ วิน กล่าว
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้