เทคโนโลยี

เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยบำบัดฝันร้ายในใจ

12 พฤศจิกายน 2565

เป็นเวลานานกว่าสิบปีแล้ว ที่  Robert Guithues แทบไม่กล้าข่มตานอนตอนกลางคืน  เพราะทุกครั้งที่หลับตา

เขาจะเห็นภาพทุ่งน้ำมันในกองเพลิงนอกกรุงแบกแดด หรือภาพหน้าฐานปฏิบัติการในเทือกเขาแถบอัฟกานิสถานซึ่งหน่วยของเขาถูกโจมตีนานถึง 278 วันตลอดภารกิจระยะเวลา 1 ปีที่ประจำการอยู่ที่นั่น

จิตใจของมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาให้พร้อมรับสิ่งที่ต้องพบเจอตอนที่ออกรบในภาวะสงคราม

ปัจจุบัน  Guithues จ่าสิบตรีกองทัพบก ได้เกษียณจากการทำงานแล้วตั้งแต่ปี 2012 หลังประจำการอยู่นานกว่า 20 ปี

เขาบอกว่า   ยิ่งเวลาผ่านไป ฝันร้ายก็ยิ่งเห็นชัดและเหมือนจริงมากขึ้นทุกที ทั้งเสียงการทำร้าย เสียงเรียกชื่อและออกคำสั่งต่างๆ ถ้าได้ยินเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่านอกบ้าน ผมก็จะไม่เข้านอนเลยจนถึงเช้า ตอนที่ที่ดิ่งที่สุดหลังจากกลับมาจากอัฟกานิสถานนั้น  ผมนอนไม่หลับเลยตั้ง3 เดือน

แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหลังจากเขาได้ใช้ NightWare

NightWare เป็นระบบบำบัดรักษาแบบดิจิทัลซึ่งทำงานร่วมกับ Apple Watch และ iPhone เพื่อหยุดอาการฝันร้ายที่เกี่ยวของกับโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง ระบบนี้มีให้บริการตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น เป็นการบำบัดรักษาแบบดิจิทัลระบบแรกและระบบเดียวที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อจัดการกับฝันร้าย ซึ่งผ่านการตรวจสอบจาก FDA แล้ว

  NightWare ทำงานโดยใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และไจโรสโคปใน Apple Watch เพื่อตรวจจับอาการฝันร้าย แล้วหยุดอาการนั้นโดยใช้การตอบสนองแบบสั่นมาสร้างการสั่นเบาๆ ที่ข้อมือ ซึ่งจะค่อยๆ แรงขึ้นจนกว่าผู้ใช้งานจะหยุดฝันร้ายและยังนอนหลับต่อไปได้

ต้นแบบของแอปนี้สร้างขึ้นโดย Tyler Skluzacek ในปี 2015 ในขณะที่กำลังเรียนด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ Macalester College รัฐมินนิโซตา  พ่อของเขาได้เริ่มมีอาการโรคPTSD ในระหว่างที่ทำงานในกองทัพมานานกว่า 20 ปี  Skluzacek จึงต้องการนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาเรื่องนี้  เขาได้แนวคิดมาจากการที่สุนัขบริการจะสั่นตัวเจ้าของเบาๆ เพื่อช่วยให้หายฝันร้าย

หลังจากสร้างแอปต้นแบบได้ไม่นาน Skluzacek ก็ได้พบกับ Grady Hannah  ซึ่งเป็น  CEO ของ NightWare Hannah

Brian Robertson แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ ทำงานในกองทัพมากว่า 25 ปี และปลดเกษียณออกมาในตำแหน่งพันเอก ก่อนที่จะเข้ามาเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของNightWare  เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นแพทย์ประจำคลินิกรักษาผู้ที่มีความผิดปกติจากการนอนหลับที่ Walter Reed National Military Medical Center

คุณหมอ Robertson ได้เห็นผลร้ายจากอาการของโรค PTSD   ผู้ป่วยโรค PTSD กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ต้องทนทรมานจากอาการฝันร้าย ปัญหาด้านการนอนหลับคือ ปัจจัยที่เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการฆ่าตัวตาย และทหารผ่านศึกชาวอเมริกันมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าผู้ที่ไม่ใช่ทหารผ่านศึกถึง 52 เปอร์เซ็นต์

ก่อนที่จะมี NightWare เราไม่มีวิธีดีๆ ในการจัดการกับอาการฝันร้ายเลย ทหารที่ยังประจำการอยู่และที่เกษียณออกมาแล้วหลายคนมีสภาพร่างกายที่ทรุดโทรม หลายคนต้องได้รับยา  Prazosin ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นยาความดันเลือด ซึ่งใช้ไม่ได้ผลในผู้ป่วยหลายคน ผลข้างเคียงก็เยอะ แถมยังไปลดสมรรถภาพทางกายในการเล่นกีฬาอีกด้วย และสมรรถภาพเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ ต่อการเป็นทหาร

ในปี 2018  Robert Guithues   ได้อ่านบทความเกี่ยวกับ NightWare จึงขอให้แพทย์เขียนสั่งชุดอุปกรณ์ซึ่งมีทั้ง Apple Watch และ iPhone มาใช้งาน เมื่อส่งมาถึง อุปกรณ์เหล่านั้นได้ติดตั้ง NightWare ไว้พร้อมใช้งานแล้ว

ในคืนที่ 2 ของการทดลองใช้ระบบบำบัดรักษานี้  Guithues นอนหลับได้ถึง 9 ชั่วโมง  ซึ่งสิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่เคยทำได้เลย NightWare  สามารถเข้ามาช่วยเยียวยาจิตใจ ช่วยลดจำนวนยาที่ต้องกินในแต่ละวันลงไปได้ถึงครึ่งหนึ่ง และช่วยให้มีชีวิตอยู่รอด

ภาพโหดร้ายทารุณที่สุดที่ผมเคยเห็นวนเวียนไปมานั้นหยุดจบลงไปได้เมื่อเริ่มใช้NightWare ในตอนเช้า อุปกรณ์จะบอกผมว่าแอปได้เข้ามาช่วยหยุดอาการประมาณ 25 ถึง 30 ครั้งตลอดทั้งคืนโดยที่ผมไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาสักครั้งเลย จนมาถึงจุดที่ผมจำฝันร้ายเดิมๆ ไม่ได้แล้วด้วยซ้ำไป

ปัจจุบันแพทย์ได้สั่ง NightWare ให้ผู้ป่วยแล้วกว่า 400 รายในสหรัฐอเมริกา  ส่วนใหญ่เป็นทหารประจำการอยู่หรือทหารผ่านศึก  การศึกษาครั้งใหม่ใน Journal of Clinical Sleep Medicine ที่ผ่านการตรวจสอบโดยคณะผู้เชี่ยวชาญแล้ว แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมที่ใช้NightWare ในเวลานอนอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์มีคุณภาพการนอนที่รายงานด้วยตนเองดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับผู้เข้าร่วมที่ไม่ได้ใช้ NightWare

CEO ของ NightWare  บอกว่า   NightWare ใช้ประโยชน์จากหลากหลายคุณสมบัติในระบบนิเวศของ Apple ทั้งฮาร์ดแวร์และดีไซน์ของ Apple Watch   ความง่ายดายในการผสานรวมและใช้งานซอฟต์แวร์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต่างช่วยส่งเสริมกันให้เกิดระบบที่พลิกชีวิตผู้คน

ขอบคุณเรื่องและภาพจาก www.apple.com

ผู้เขียน
ทีม iJournalist