เริ่มแล้ววันนี้ โครงการ ‘เลิฟปัง รักปลอดภัย’ ป้องกันภาวะท้องไม่พร้อม และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สปสช เพิ่มทางเลือกใหม่ ขอรับ “ถุงยางอนามัย-ยาคุมกำเนิด” ได้ฟรีผ่านแอปเป๋าตัง
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการและโฆษก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากสถิติพบว่าช่วงโควิดมีอัตราการเกิดภาวะท้องไม่พร้อมสูงสุด แต่ละวันมีคนมาคลอดด้วยสาเหตุท้องไม่พร้อม 149 คน ในจำนวนนี้ 10% ยังอยู่ในวัยเรียน ขณะเดียวกันข้อมูลจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าในปี พ.ศ. 2564 มีผู้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จำนวน 42 ต่อแสนประชากร
เคมเปญ ‘เลิฟปัง รักปลอดภัย’ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ และปัญหาท้องไม่พร้อม โดยการแจกยาคุมกำเนิดและถุงยางอนามัยให้กับมีสิทธิบัตรทองวัยเจริญพันธุ์
สำหรับยาคุมกำเนิดจะมีทั้งแบบฉุกเฉินและแบบปกติ แบบฉุกเฉินจะแจกให้กับผู้หญิงที่มีอายุ 10-24 ปี สามารถรับได้ไม่เกิน 2 แผงต่อปี ส่วนแบบปกติ จะแจกให้กับผู้หญิงทีมีอายุ 15-59 ปี รับได้ครั้งละไม่เกิน 3 แผง ปีละไม่เกิน 13 ครั้ง ส่วนถุงยางอนามัยจะแจกให้กับผู้ชายที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป รับได้ 10 ชิ้นต่อสัปดาห์ ขนาดถุงยางอนามัยที่ให้บริการมี 4 ขนาดด้วยกัน คือ 1.ถุงยางอนามัย ขนาด 49 มม. 2.ถุงยางอนามัย ขนาด 52 มม. 3.ถุงยางอนามัย ขนาด 54 มม. และ 4.ถุงยางอนามัย ขนาด 56 มม.
สามารถขอรับยาคุมกำเนิดและถุงยางอนามัย ได้ที่หน่วยบริการหรือสถานพยาบาลที่เข้าร่วมให้บริการในระบบบัตรทอง ด้วยการลงทะเบียน ผ่านแอบพลิเคชัน “เป๋าตัง” บนสมาร์ทโฟน ถ้าไม่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถใช้บัตรประชาชนลงทะเบียนและรับบริการได้ที่หน่วยบริการโดยตรงได้
สำหรับหน่วยบริการ หรือสถานพยาบาลที่เข้าร่วมให้บริการในระบบบัตรทอง มีทั้ง หน่วยบริการประจำและหน่วยบริการปฐมภูมิ หน่วยบริการที่รับส่งต่อเฉพาะด้านเวชกรรม ด้านการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ด้านบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ร้านยา และคลินิกชุมชนอบอุ่น เป็นต้น โดยสามารถดูรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช. https://www.nhso.go.th/page/hospital
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์ สปสช.ก็จะเริ่มให้การบริการถุงยางอนามัยผ่านตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ เบื้องต้นจะนำร่องติดตั้งเครื่องจ่ายถุงยางอนามัย 3 จุดบริการในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกับการแถลงข่าวเปิดตัว ก่อนติดตั้งในจังหวัดอื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงถุงยางอนามัยให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่มีความอายและไม่กล้าเข้ารับถุงยางอนามัยที่หน่วยบริการ
“ขอเน้นย้ำและชี้แจงทำความเข้าใจด้วยว่า สิทธิประโยชน์บริการถุงยางอนามัยนี้ ไม่ได้เป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนให้มีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ยังไม่ถึงวัยอันควร แต่เป็นบริการเพื่อประโยชน์ในการช่วยให้เข้าถึงการป้องกันภาวะท้องไม่พร้อมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถือเป็นบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่มีความจำเป็น ขณะเดียวกันยังเป็นการสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560-2573 ให้บรรลุเป้าหมายด้วย อย่างไรก็ตามทั้ง 2 บริการคือ ถุงยางอนามัยและยาเม็ดคุมกำเนิดนั้น ขณะนี้ใช้ได้เฉพาะผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง 30 บาทเท่านั้น ส่วนสิทธิอื่นๆ เช่น สิทธิประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ อยู่ระหว่างรอความชัดเจนและ สปสช.จะประกาศให้ทราบอีกครั้ง”นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี กล่าวสรุป
การรักษาอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพให้ปลอดภัยเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้