ขณะนี้ทั่วโลกพบการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA.4/BA.5 เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แนะนำคนที่เดินทางไปต่างประเทศแม้จะเป็นประเทศที่มีการผ่อนคลายเรื่องหน้ากากแล้ว ก็ให้สวมหน้ากากเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เมื่อกลับมาแล้วก็ให้สวมหน้ากาก เพื่อไม่ให้นำเชื้อกลับมาติดกลุ่มเสี่ยงที่บ้าน เลี่ยงไปสถานที่สาธารณะ ถ้าป่วยมีอาการก็ให้รีบตรวจ ATK
สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยกำลังรักษา ผู้ป่วยหนัก ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกทม.และปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยว พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในสถานที่เสี่ยง เช่น โรงเรียน สถาบันการศึกษา ทำให้มีการแพร่ไปสู่ครอบครัว และคนใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่ม 608
อาทิตย์นี้มีผู้รักษาตัวในระบบ HI เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 1.5 หมื่นราย ลงทะเบียนรับยาผ่านระบบ สปสช. แบบผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นจาก 1.91 แสนราย เป็น 2.07 แสนราย อัตราครองเตียงระดับ 2-3 ก็เพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในเกณฑ์รองรับได้ในระบบสาธารณสุข
กรมควบคุมโรคคาดการณ์ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2565 อาจเกิดการระบาดเป็นระลอกเล็กๆ (Small Wave) มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น มีผู้ไปรักษาในโรงพยาบาลมากขึ้น หากยังคงมาตรการเหมือนช่วงเดือนมิถุนายน ก็คาดว่าช่วง 10 สัปดาห์จากนี้ไปจนถึงเดือนกันยายนจะเป็นช่วงพีคสุดของเวฟในการเจอผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล และถ้าผ่อนคลายมาตรการทั้งหมด ไม่สวมหน้ากาก ก็อาจจะมีผู้ป่วยมากขึ้นอีก และถ้ากลุ่ม 608 ป่วยมากขึ้น ก็อาจจะเป็นระลอกใหญ่ขึ้นได้
ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบถอดหน้ากากอนามัย ให้ใส่ไว้ก่อน โดยเฉพาะขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะทุกประเภท ขณะร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก ใครยังไม่ฉีดวัคซีนก็รีบไปฉีด โดยเฉพาะกลุ่ม 608 วัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยลดและป้องกันอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตลงได้
