ข่าวทั่วไป

สายเนื้อห้ามพลาด “โคดำลำตะคอง”  โลคอลซอฟต์พาวเวอร์โคราช

26 มกราคม 2567

สายเนื้อห้ามพลาด “โคดำลำตะคอง”  โลคอลซอฟต์พาวเวอร์โคราช

NIA ผลักดันโคดำลำตะคอง  นวัตกรรมโคเนื้อลูกครึ่ง 3 สายพันธุ์ “โคพื้นเมือง – วากิว – แองกัส”  เตรียมเผยโฉมในเทศกาลเนื้อ 1 – 4 ก.พ. 2567  ที่อุทยานวิทย์โคราช

เป็นงานแถลงข่าวที่ทำลายสมาธิกระเจิดกระเจิง เพราะย่างเนื้อกันทั้งงาน ชวนยั่วน้ำลายสุด ๆ    สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA    

โคดำลำตะคอง

หนึ่งในความสำเร็จจากการพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ในส่วนภูมิภาค เมือง และย่านนวัตกรรม ในพื้นที่กลุ่มนครชัยบุรินทร์   (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์)  ให้เป็นพื้นที่ศูนย์กลางการผลิตโคเนื้อคุณภาพสูงของประเทศไทย  เป็นต้นแบบการสร้างมาตรฐานการผลิตโคเนื้อคุณภาพสูงโดยนำศักยภาพของพื้นที่มาร่วมกับการใช้นวัตกรรมเข้าไปปรับเปลี่ยนและยกระดับมูลค่าผลิตภัณฑ์

“โคดำลำตะคอง” เป็น เนื้อวัว คือไทยคุณภาพสูงที่ได้จากนวัตกรรมการผสม 3 สายพันธุ์   คือ “โคพื้นเมือง – วากิว – แองกัส”

วัวพื้นเมืองสายพันธุ์โคราช  มีจุดเด่นที่เนื้อมีกลิ่นหอม และถึกทน

วากิว  มีปริมาณไขมันแทรก คล้ายหินอ่อน

แองกัส  นั้นโตเร็ว ทนต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี   

Thailand Beef Fest 2024

กิจกรรมไฮไลท์ ได้แก่ นิทรรศการแสดงพันธุ์วัวไทย เทคโนโลยีการถ่ายทอดพันธุ์โคเนื้อคุณภาพสูง โรงเลี้ยงจำลอง การจัดแสดงสายพันธุ์วัว และนิทรรศการพันธุ์วัวเนื้อต่างประเทศ ณ อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นครราชสีมา) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 1-4 กุมภาพันธ์ 2567

นครชัยบุรินทร์พื้นที่โดดเด่นของการเลี้ยงวัวระดับประเทศ

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า การพัฒนาและผลักดันให้พื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มนครชัยบุรินทร์  เป็นศูนย์กลางด้านการพัฒนาโคเนื้อคุณภาพสูงของประเทศไทย ทั้งในฐานะแหล่งผลิตโคเนื้อ และพื้นที่ต้นแบบด้านการสร้างมาตรฐานการผลิตโคเนื้อคุณภาพสูง เป็นตัวอย่างของการพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ด้วยการนำทรัพยากรธรรมชาติและศักยภาพทางภูมิศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์

พื้นที่ดังกล่าว มีความโดดเด่นทั้งในแง่ของปริมาณการเลี้ยงโคเนื้อมากที่สุดในประเทศไทยถึงร้อยละ 50 จากการผลิตโคเนื้อทั่วประเทศจำนวน 1.495 ล้านตัว  เป็นแหล่งผลิตอาหารสำหรับการผลิตโคเนื้อที่สำคัญ เช่น หญ้า มันสำปะหลัง ข้าวโพด และธัญพืช

มีหน่วยขับเคลื่อนด้านงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ทั้งการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์โคเนื้อคุณภาพสูงแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่พร้อมถ่ายทอดสู่เกษตรกร และผู้ประกอบการปศุสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตโคเนื้อคุณภาพสูง เช่น การวิจัยด้านปรับปรุงสายพันธุ์ การพัฒนาสูตรอาหารเลี้ยงโคในทุกช่วงวัย การส่งเสริมกระบวนการเลี้ยงโคตามมาตรฐาน GFM และการส่งเสริมการแปรรูปเนื้อโค เพื่อเข้าไปปรับเปลี่ยนและยกระดับมูลค่าผลิตภัณฑ์ พร้อมส่งผลต่อการยกระดับรายได้ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ โดยเนื้อวัวคุณภาพสูงสามารถขายได้ 105 -145 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่เนื้อวัวคุณภาพสูงของประเทศไทยยังไม่เพียงพอ ต้องมีการนำเข้าสูงกว่า 7,000 ล้านบาทต่อปี

ต่อยอด “ย่านนวัตกรรมโคเนื้อ”

การพัฒนาโคเนื้อที่มีคุณภาพ จะช่วยเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว การบริโภค และการลงทุนในอุตสาหกรรมอาหาร หรืออุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องในอนาคต หากประสบความสำเร็จก็สามารถนำไปเป็นต้นแบบในการสร้างอัตลักษณ์ที่โดดเด่นสำหรับแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว กลุ่มเมืองรอง และเมืองอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สร้างประโยชน์ทั้งในเชิงพาณิชย์และสังคม

จากทฤษฎีนำไปใช้จริง

ผศ.ดร.ปภากร พิทยชวาล ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (นครราชสีมา) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เปิดเผยว่า  อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคฯ เข้ามาช่วยส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรมจากมหาวิทยาลัยในเครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ด้วยการรวมกลุ่มวิสาหกิจผู้เลี้ยงโคและผู้ประกอบการ เพื่อเสาะหาความต้องการจากเกษตรกรและผู้ประกอบการ แล้วนำมาจับคู่กับเทคโนโลยีที่เหมาะสม

โดยมีนักวิจัยที่มีองค์ความรู้เข้ามาช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยี สร้างกิจกรรมที่จะส่งเสริมและขยายตลาดให้กับกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการผ่านแพลตฟอร์มการให้บริการของอุทยานวิทยาศาสตร์

ปัจจุบันมีเครือข่ายที่มีเทคโนโลยีสนับสนุนการเพิ่มมูลค่ามากมาย เช่น เทคโนโลยีการแยกเพศอสุจิโคด้วยโมโนโคลนอลแอนติบอดี การมีศูนย์ตรวจสอบคุณภาพเนื้อระดับพันธุกรรมด้วยเทคนิค เพื่อตรวจสอบคุณภาพเนื้อระดับพันธุกรรมร่วมกับการใช้เครื่องหมายดีเอ็นเอที่ถูกพัฒนาขึ้น และเพื่อวิเคราะห์เครื่องหมายทางพันธุกรรมที่สำคัญและมีความเกี่ยวเนื่องกับปริมาณไขมันแทรกในเนื้อโค

จัดสร้างฐานข้อมูลลายพิมพ์ดีเอ็นเอเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการตรวจสอบระดับเลือดผสมวากิวก่อนส่งเข้ากระบวนการขุน และใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงพันธุ์ในเชิงพาณิชย์ แพลตฟอร์มสำหรับตรวจสอบคุณภาพเนื้อระดับพันธุกรรมเพื่อให้เกษตรกรสามารถตรวจประวัติโคได้ง่าย และเพิ่มความมั่นใจถึงผลลัพธ์ที่ดีในการขุนโคลูกผสมวากิวแต่ละครั้ง

เกษตรกรได้ประโยชน์จากงานวิจัย

นายอรรควัฒน์ วิริยะขจรเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.วี.เค.ฟาร์ม โปรดักส์ จำกัด  ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากมหาวิทยาลัยสุรนารี อธิบายถึงความพิเศษของเนื้อ “โคดำลำตะคอง” ว่า โคดำลำตะคองเป็นลูกผสม 3 สายพันธุ์ที่ดึงเอาคาแรคเตอร์และคุณภาพเนื้อที่โดดเด่นแตกต่างกันของแต่ละสายพันธุ์ ปัจจุบันสามารถทำให้เกิด “พ่อพันธุ์กึ่งสำเร็จรูป” ลูกผสม 3 สายเลือด โดยการผสมเพียงครั้งเดียว ลดระยะเวลาในการผลิตลูกผสม 3 สายเลือด ลงไป 3 ปี

นอกจากความพิเศษของสายพันธุ์ “โคดำลำตะคอง” แล้ว ยังมีการเลี้ยงอย่างปราณีตและพิถีพิถัน ตลอดกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ รวมถึงสูตรอาหารที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากมหาวิทยาลัย  เสริมด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของโคในสูตรและปริมาณที่แตกต่างไปตามช่วงอายุ ทำให้โคเหล่านี้มีสุขภาพดี  ดังนั้น “โคดำลำตะคอง” จึงเป็นเนื้อโคไทยคุณภาพสูง (Premium Beef) ที่มีกลิ่นรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ “โคหนุ่ม เนื้อนุ่ม ชุ่มมัน” มีลักษณะของชั้นไขมันที่แทรกระหว่างเนื้อ (Marbling Score) ซึ่งในนั้นมีโอเมก้า 9 ที่เป็นสารอาหารสำคัญ

สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อคุณภาพสูงในพื้นที่ เมื่อเทียบกับเนื้อโคที่เกษตรกรเลี้ยงแบบเดิมจะขายได้ในราคา 82 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่โคเนื้อคุณภาพสูงสามารถขายได้ 105-145 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งคิดเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นขั้นต่ำต่อปี 28 % ทั้งนี้ หากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคสามารถพัฒนาคุณภาพเนื้อโคคุณภาพสูงได้ถึงเกรดสูงสุด เกษตรกรผู้เลี้ยงโคในพื้นที่จะสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 65 % ต่อปี

เตรียมยานพาหนะให้พร้อมไปเทศกาลเนื้อ 1 – 4 ก.พ. 2567  ที่อุทยานวิทย์โคราช

More read

Tags

  • NIA
  • Thailand Beff Fest 2024
  • ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กา...
  • สายเนื้อ
  • อุทยานวิทยาศาสตร์ โคราช
  • โคดำลำตะคอง