เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตจริง ๆ เพราะไม่รู้จะได้ไปอีกเมื่อไหร่ เรี่ยวแรงจะไหวมั๊ย
ลุงหื่น มักจะพูดอยู่เสมอว่า “อยากไปไหนก็ไป ในวันที่ยังมีแรง”
ก็เพราะคำนี้แหละก็เลยฮึด ชวนกันไปประเทศอิตาลี จุดหมายปลายทางอยู่ที่โดโลไมท์ ( Dolomites)
Lago di Misurina
โดไลไมท์ สวรรค์บนดินในอิตาลี
เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ที่ทอดยาว อยู่ตอนเหนือของประเทศ อิตาลี เทือกเขาสูงแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติโดโลมีตีเบลลูเนซี ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศ
เทือกเขาโดโลไมท์ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ เมื่อ พ.ศ. 2552 ข้อมูลของยูเนสโก ระบุว่า The Dolomites ประกอบด้วยเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือของอิตาลี จำนวน 18 ยอดเขา สูงถึง 3,000 เมตร พื้นที่มากกว่า 141,903 เฮกตาร์
https://whc.unesco.org/en/list/1237/
มีภูมิทัศน์ภูเขาที่สวยงามที่สุด ประกอบด้วยหน้าผาสูงชัน หุบเขาที่แคบและลึก มีความสำคัญทางธรณีวิทยาระดับโลก เกี่ยวกับค้นคว้าหินปูนโดโลไมท์ (Dolomitic Limestone) และมีความสำคัญต่อการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
การก่อตัวที่มีลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโดโลไมท์ เรียกว่า Dolomite Landscape
วิวอีกด้านถ่ายจาก Refugio Auronzo ใกล้บริเวณจอดรถ
เริ่มต้นการเดินทาง
ทริปนี้เลือกใช้บริการสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ ซึ่งโค้ดแชร์กับการบินไทย บริการดีเลิศทั้งไปและกลับ ต่อเครื่องไปมิลาน ที่สนามบินอิสตันบูล เมื่อเดินทางถึงมิลาน ขั้นตอนผ่านการเข้าเมืองไม่ยุ่งยาก ใช้เวลารอในคิวประมาณ 45 นาที ช่วงแรกเจ้าหน้าที่ ตม.เข้าประจำการน้อย สักพักก็มาเพิ่มทำให้รวดเร็วขึ้น
การเดินทางออกจากสนามบินเข้ามายังตัวเมืองมิลาน สะดวกมาก มีบริการรถสาธารณะให้เลือกทุกรูปแบบ จึงเลือกใช้บริการรถบัสเพราะราคาไม่แพง ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นรถไฟ รถบัสไปเซ็นทรัลสเตชั่น จอดรอรับผู้โดยสารอยู่หน้าสนามบิน ค่าโดยสารคนละ 10 ยูโรเท่านั้น ซื้อตั๋ว เอากระเป๋าใหญ่เก็บก็ขึ้นรถได้เลย
เราวางแผนเที่ยวในมิลานสามคืนก่อนจะเช่ารถขับไป Dolomites ระหว่างทางก็แวะเที่ยวไปเรื่อยๆ ทั้งเมืองเวโรน่า เมืองเวนิส และตามหมู่บ้านตลอดเส้นทาง
เนื่องจากไปกันสองคน ที่พักส่วนใหญ่เลือกนอนโรงแรม
เมืองมิลาน เมืองเวโรน่า เมืองเวนิส ก็สวยงามมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขอไม่เล่าให้ฟังแล้วกันนะคะ
ขอเน้น ไปที่ Dolomites ไฮไลท์ของทริปนี้เลย
Tre Cime di Lavaredo ธรรมชาตินั้นงดงามและยิ่งใหญ่ โดยไม่ต้องปรุงแต่ง
The Dolomites จะเปิดให้เข้าไปเดินป่าเส้นทางต่างๆ ช่วงหน้าร้อน ประมาณเดือนมิถุนายนของทุกปี แนะนำว่าก่อนวางทริปให้ติดตามวันเปิดจากอุทยานแห่งชาติฯ เราตัดสินใจเดินทางเดือนมิถุนายน หลังจากโดโลโมท์เปิดได้ไม่กี่วัน
เนื่องจากจะไปเดินป่าเส้นทาง Tre Cime di Lavaredo ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางยอดนิยม แน่นอนว่าเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว จึงจองที่จอดรถด้านบน ราคา 40 ยูโร จอดได้ 12 ชั่วโมง ปีนี้เป็นปีแรกที่เปิดให้จองที่จอดรถออนไลน์ จอดรถได้ก็คว้าเตรียมอุปกรณ์ที่เตรียมมา ใส่รองเท้าเดินป่า ไม้เดินป่า ( Trekking Pole) หมวก เสื้อกันลม และเป้ใส่น้ำดื่ม และอาหารกลางวัน
เส้นทาง Tre Cime di Lavaredo ระยะทางเดินประมาณ 10 กม. เนื่องจากโดโลไมท์เป็นภูเขาหินปูน ทางเดินจะเป็นก้อนหินเล็กๆ ใหญ่ๆ บางช่วงชันมาก ก็ใช้วิธีเหนื่อยก็หยุดพัก ไม่ถึงกับเดินยาก เพราะฝรั่งก็พาลูกมาเดิน บางครอบครัวมีคุณปู่คุณย่ามาด้วย บางคนก็จูงหมา แต่ละตัวล้วนแสดงความเป็นมือโปรด้านการเดินป่า วิ่งนำเจ้าของทุกตัว
เพิ่งเริ่มฤดูร้อน บางช่วงหิมะยังละลายไม่หมด ตลอดเส้นทางเดินจะเห็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ ขนาดเล็กๆ เป็นระยะ อากาศเย็นสบายกว่าอยู่ในตัวเมือง
ยอดเขา 3 ยอด ตั้งเรียงรายกันสูงตระหง่าน บางวันมีเมฆหมอกคลอเคลีย บางวันฟ้าใสสวย มาเช้าหรือรอถึงยามเย็นจะได้เห็นยอดเขาเป็นสีทองจากแสงอาทิตย์ ยังมีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ยังไม่ละลายให้ปีนขึ้นไปเต๊ะท่าถ่ายรูปได้
การเดินป่ามาสนุกและยากก็ตอนปีนขึ้นไปยังถ้ำ Grotta Delle Tre Cime เพื่อจะไปถ่ายรูปมุมมหาชนที่เห็นตามเว็บท่องเที่ยว แค่เห็นทางขึ้นชันและลื่น เพราะฝนตก ก็เริ่มถอดใจ แต่หลังจากกินน้ำกินขนมจนอิ่ม ก็ฮึดขึ้นมาทันที มาไกลขนาดนี้จะยอมแพ้ความท้าทายตรงหน้าได้ยังไง
กว่าจะตะเกียกตะกายปีนถึงหน้าถ้ำก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน บางช่วงต้องใช้วิธีนั่งแล้วขยับตัวไปข้างหน้า โดยใช้ไม้ Pole เป็นหลักยึด
ความพยายามอยู่ที่ไหน วิวสวยๆ ก็รออยู่ที่นั่น แต่สุดท้ายมาเสียหลักสะดุดก้อนหินล้มอยู่หน้าปากถ้ำ เข่ากระแทกเจ็บเอาเรื่อง
บางคนเดินถึงเขาสามยอดก็จะวกกลับทางเดิม แต่เราสองคนเลือกเส้นทางวนรอบ ระยะทางในแผนที่ประมาณ 9.8 กม. แต่เดินจริงวันนั้นจัดไป 14 กม. ใช้เวลารวมกว่า 6 ชม. กลับถึงโรงแรมตอนเย็นแทบยกขาไม่ขึ้น
วันต่อมายังไม่เข็ด ตัดสินใจจะเดินเทรลกันแบบเบาๆ ขึ้นกระเช้าไป 5 Torri หรือ The Cingular Torri แต่ขากลับเดินลง ก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะทางชันลงตลอด
The Cingular Torri หน้าร้อนก็มาเดินป่า ปีนหน้าผา หน้าหนาวก็เป็นสถานที่เล่นสกี นอกจากจะมีกลุ่มหินเป็นเอกลักษณ์สวยงามแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สงครามกลางแจ้ง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ยังมีสนามเพลาะ และบังเกอร์ ให้จินตนาการถึงอดีต จุดนี้เดินง่ายและระยะทางไม่ไกล
คือความทรงจำแห่งความสุข
เราใช้เวลากับสถานที่ต่างๆ ใน Dolomites ถึง 5 วัน หลงใหลไปกับความสวยงามของธรรมชาติ จะมองมุมไหนก็สวยสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
ยังจดจำความรู้สึกที่ยืนมองเทือกเขาโดโลไมท์ สัมผัสได้ถึงความงดงาม ความสงบ และความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
การเดินทางเที่ยวอิตาลี 2 สัปดาห์ ชอบที่สุดก็ The Dolomites นี่แหละ ถ้ามีโอกาสก็จะหาเวลาไปเยือนอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ กำลังขาและหัวเข่าของแต่ละช่วงวัย
Link ที่จอดรถ Tre Cime https://auronzo.info/en/parking-tre-cime-di-lavaredo/
บัตร Dolomiti Super Summer ขึ้นกระเช้าได้ไม่จำกัด https://shop.dolomitisuperski.com/homeSummer
ข้อมูลมรดกโลก https://whc.unesco.org/en/list/1237/
บรรณาธิการเทคโนโลยี
9 อัตลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจสู่การรังสรรค์ใหม่ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ
ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ AIS Care+with Samsung Care Services
เอ็มเอสดีประเทศไทย จัด Trans Pride Thailand 2025 ขับเคลื่อนสังคมแห่งความเท่าเทียม
ฉลอง 10 ปี Apple Music เปิดศูนย์กลางระดับโลกแห่งใหม่สำหรับศิลปิน