เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา Apple จัดกิจกรรมพิเศษ “เร็วน่าขนลุก” ทางออนไลน์ เพื่อเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ MacBook Pro แบบใหม่หมดพร้อมชิปตระกูล M3 และ iMac รุ่น 24 นิ้ว พร้อมชิป M3 นั้น
มีดาวเด่นที่ทำงานอยู่เบื้องหลังโดยไม่มีใครเห็น นั่นคือ iPhone 15 Pro Max ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่ครีเอทีฟและผู้สร้างภาพยนตร์มือโปรเลือกใช้ โดยในครั้งนี้ใช้ในการถ่ายผู้นำเสนอ สถานที่ และฟุตเทจจากโดรนที่ได้รับชมไปทั้งหมด เรียกว่า iPhone 15 Pro Max ได้โชว์ฝีมือแบบเต็มๆ ในคีย์โน้ต “เร็วน่าขนลุก” ซึ่งนำโดย Brian Oakes ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีที่ได้รับรางวัลจากเรื่อง Jim: The James Foley Story และ Living with Lincoln
ระบบกล้องของ iPhone 15 Pro Max บันทึกวิดีโอที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟนด้วยคุณภาพในระดับที่สูสีกับกล้องวิดีโอระดับมืออาชีพ และ iPhone 15 Pro Max ยังช่วยให้ครีเอทีฟสามารถถ่ายในรูปแบบ ProRes ได้สูงสุดที่ระดับ 4K60 fps ลงไดรฟ์ภายนอกด้วยการเข้ารหัส Apple Log ซึ่งสามารถเก็บบันทึกรายละเอียดได้มากขึ้น สำหรับใช้ในการปรับแก้สีช่วงโพสต์โปรดักชั่น นอกจากนี้ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในโลกที่รองรับ Academy Color Encoding System (ACES) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกสำหรับเวิร์กโฟลว์ด้านสี
“เราสามารถใช้ iPhone 15 Pro Max เพื่อถ่ายช็อตที่ซับซ้อนได้เหมือนที่เคยทำมา” Oakes กล่าว “ทุกอย่างถูกใช้งานเพื่อขยายวิสัยทัศน์หรือบุคลิกภาพของใครบางคน คุณภาพของภาพที่ถ่ายด้วย iPhone ทำให้ทุกสิ่งเป็นไปได้”
งานโปรดักชั่นครั้งนี้ได้รับคำแนะนำจาก Jon Carr ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิดีโอระดับ Pro Workflow ที่มีส่วนร่วมในภาพยนตร์อย่าง Top Gun: Maverick และ Terminator: Dark Fate และ Jeff Wozniak ซึ่งเคยทำงานโปรดักชั่นให้กับภาพยนตร์อย่าง Transformers: Dark of the Moon, Avatar และ Iron Man 2 “ปีนี้ iPhone 15 Pro Max อัดฉีดพลังแรงด้วยความสามารถในการบันทึก ProRes ลงไดรฟ์ภายนอก และ Apple Log ซึ่งเป็นการนำฟอร์แมตที่ใช้ในกล้องดิจิทัลระดับไฮเอนด์ทั้งหมดมาปรับแต่งในแบบของเรา” Wozniak กล่าว
“เป็นเรื่องน่าทึ่งไม่ใช่เล่นที่คุณสามารถนำอุปกรณ์นี้มาใส่ในมือของผู้กำกับมืออาชีพสักคนโดยที่พวกเขาไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์อะไรเลย และไม่ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานที่เคยทำมาตลอดด้วย” Carr กล่าวเสริม
ในการถ่ายฟุตเทจด้วย iPhone 15 Pro Max หลายเครื่องนั้น ทีมงานใช้ iPhone 15 Pro ร่วมกับแอป Blackmagic Camera และ Tentacle Sync เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังที่แท้จริงของระบบนิเวศ Apple โดยแอป Tentacle Sync ซึ่งเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth จะทำหน้าที่จัดการไทม์โค้ดและทำให้อุปกรณ์ทั้งหมดในกองถ่าย รวมถึง Mac และหน้าจอพรีวิว ซิงค์ตรงกันหมดตลอดการถ่ายทำ และยังมีการใช้อุปกรณ์เสริมจาก Beastgrip อย่างเคจและริกในระหว่างการถ่ายทำด้วย
เบื้องหลังกัน “เร็วน่าขนลุก”
iPhone 15 Pro Max ที่มาพร้อมช่องต่อ USB-C มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้นแบบก้าวกระโดดสูงสุดถึง 10Gbps เมื่อใช้กับสาย USB 3 ที่ใช้งานร่วมกันได้ จึงสามารถรองรับเวิร์กโฟลว์ใหม่ๆ อย่างการบันทึกวิดีโอ ProRes ลงไดรฟ์ SSD ภายนอกโดยตรง ทำให้ทีมงานเปิดดูฟุตเทจที่เพิ่งถ่ายไปได้แทบจะในทันทีและปรับแต่งในระหว่างการถ่ายทำ
ส่วนในช่วงโพสต์นั้น นักตัดต่อก็สามารถใช้ประโยชน์จากช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้นของ Apple Log ซึ่งช่วยให้การปรับแก้สีมีความถูกต้องแม่นยำและยืดหยุ่นมากขึ้น
“เร็วน่าขนลุก” แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยที่ดียิ่งขึ้นของ iPhone 15 Pro Max ขณะถ่ายทำที่ Apple Park ในช่วงกลางคืน และยังมีการเข้ารหัส Log สำหรับ ProRes ที่ทำให้ iPhone 15 Pro Max มีช่วงแสงสว่างและมืดที่กว้างขึ้นกว่ารุ่นก่อน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือช่วงไดนามิกโดยรวมที่ดีขึ้นและสามารถปรับแก้สีในช่วงโพสต์โปรดักชั่นได้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น
“ตอนที่ผมได้เห็นฟุตเทจจาก iPhone 15 Pro Max ครั้งแรกก็รู้สึกทึ่งและประหลาดใจทันที” Stefan Sonnenfeld ซึ่งเป็น CEO ของ Company 3 ที่ปรับแก้สีให้กับงานชิ้นนี้และเคยทำงานในโปรเจ็กต์อย่าง Stranger Things, The Equalizer 3 และ Fast X กล่าว “คุณภาพของภาพที่ได้จาก iPhone 15 Pro Max นั้นเหลือเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ และที่ผมรู้ก็เพราะผมได้ทำและได้เห็นมาแล้ว และเราก็กำลังทำโปรเจ็กต์นี้กันด้วย iPhone 15 Pro Max นี่แหละ”
แอป Blackmagic Camera
ทีมงานใช้แอป Blackmagic Camera ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ iOS เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เฟซแบบเดียวกันกับในกล้องภาพยนตร์ดิจิทัลที่ได้รับรางวัลของ Blackmagic Design ซึ่งมาพร้อมเครื่องมือชุดเดียวกันกับที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่องยาว รายการทีวี และสารคดีต่างๆ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปนี้ได้ฟรีทาง App Store เพื่อเพิ่มส่วนควบคุมกล้องภาพยนตร์ดิจิทัลให้กับ iPhone และแอปยังรองรับการเข้ารหัส Apple Log บน iPhone 15 Pro Max ด้วย
“ในเบื้องหลังเราทำงานกันหนักมากโดยทำงานร่วมกับนักพัฒนาที่ยอดเยี่ยมอย่าง Blackmagic Design ซึ่งได้สร้างสรรค์แอปอันน่าทึ่งที่ช่วยให้เราสามารถมีจอมอนิเตอร์และทีมงานมากมายขนาดนี้ และทุกคนยังทำงานได้เหมือนอย่างที่เคยทำมาด้วย” Carr กล่าว
ในกองถ่าย ทีมงานใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบทั่วไปที่นิยมใช้กัน ซึ่งรวมถึงการใช้โดรน ร่วมกับ iPhone 15 Pro Max ได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุดเพื่อบันทึกฉากต่างๆ และนำเสนอ MacBook Pro ใหม่ “มีเครน มีดอลลี่ มีอุปกรณ์นั่นนี่ครบทุกอย่างในแบบที่ผู้สร้างภาพยนตร์ต้องการ และทุกคนก็เคลื่อนที่และทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งเป็นบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นและมีชีวิตชีวาเอามากๆ” Oakes กล่าว
แบรนด์ Creative เงียบไปนานได้เวลากลับมาทำความรู้จักกันอีกครั้ง
อยากทำหนัง ต้องรีบสมัคร “Today at Apple นักเล่าเรื่องกรุงเทพ”
Galaxy S24 Ultra พร้อมเข้าที่ 250 จุดถ่ายทอดสดเปิดโอลิมปิก 2024
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้