50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยจีน ตลอดเส้นทางอันยาวนาน นำพาเรื่องราวของผู้คนที่อยู่ห่างกันนับพันกิโลเมตร ส่งถึงกันบริการของ “ไปรษณีย์ไทย”
เริ่มต้นด้วยการรับส่งโทรเลข จดหมาย มาวันนี้ส่งของฝากจากบ้านเกิด ส่งพัสดุที่บรรจุผลผลิตจากเกษตรกรไทยที่เดินทางไปถึงผู้บริโภคจีน
ไปรษณีย์ไทยมองหาช่องทางใหม่ ๆ ส่งสินค้าไปจีน
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยมีแผนพัฒนาการขนส่งทางบกจากต้นทางจีน เพื่อให้บริการสำหรับลูกค้ากลุ่ม B2B และกลุ่ม B2C โดยใช้การขนส่งในช่องทางพาณิชย์ เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการลดต้นทุนค่าขนส่ง สามารถขนส่งได้ในปริมาณมากขึ้นเมื่อเทียบกับการขนส่งทางอากาศ และยังเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทั้งต้นทางและปลายทางได้มากขึ้น
เช่น มีบริการดำเนินพิธีการภาษีศุลกากรทั้งที่ต้นทางและปลายทาง
ไปรษณีย์ไทยอยู่ระหว่างศึกษาการใช้ประโยชน์จากช่องทางการขนส่งทั้งทางรถและทางราง (Multimodul Transport) ไปปลายทางจีน และพร้อมเป็นจุดกระจายสินค้าเข้าไทย โดยใช้เครือข่ายในประเทศและส่งต่อไปทั่วโลก ทั้งทางอากาศและทางภาคพื้น
ปัจจุบันการขนส่งพัสดุจากไทยไปจีนในปีที่ผ่านมา มีปริมาณเพิ่มขึ้นกว่า 3% โดยในปี 2568 ไปรษณีย์ไทยมีแผนเชื่อมโยง และสนับสนุนเศรษฐกิจทั้ง 2 ประเทศ ผ่านบริการขนส่งสิ่งของสำหรับลูกค้ากลุ่ม B2B และกลุ่ม B2C
ทั้งนี้ กลุ่มบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ ไปรษณียภัณฑ์ ส่งด่วนระหว่างประเทศ EMS World และพัสดุ
ระหว่างไทยและจีนมีเส้นทางด้านการขนส่งที่สำคัญได้แก่ ระบบขนส่งทางอากาศ ทางเรือ และทางภาคพื้น โดยทุกเส้นทางล้วนมีศักยภาพในการช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันให้กับภาคธุรกิจไทยในตลาดจีนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสิ่งของที่ได้รับความนิยมในการส่งผ่านไปรษณีย์จากไทยไปปลายทางประเทศจีน คือ เอกสารของเล่น เสื้อผ้าคอตตอน อาหารเสริม และเครื่องรางของขลัง
แสตมป์ทูตสื่อสารประวัติศาสตร์ไทย-จีน
ในวาระครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ไปรษณีย์ไทยได้จัดทำแสตมป์ชุดพิเศษ “50 ปี ไทย–จีน” ที่ผสานพญานาคของไทยและมังกร ของจีนเป็นเลข 50 พร้อมภาพจำสำคัญ เช่น การเชิดสิงโต พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ และอาคารสถาปัตยกรรมจีน-โปรตุเกสในภูเก็ต ที่สื่อถึงความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึกและต่อเนื่อง
งานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย 2568
ในวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย – จีน ไปรษณีย์ไทย และสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ จัดงานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย 2568 “จดหมายแห่งมิตรภาพ – From Bangkok to Beijing” ถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์ไทย – จีน ผ่านนิทรรศการแสตมป์ จดหมาย และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมร่วมสมัย จัดแสดงแสตมป์หายากจากทั่วทั้งเอเชีย ระหว่างวันที่ 8 – 12 สิงหาคม 2568 นี้ ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก
นิทรรศการดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อแสดงบทบาทของแสตมป์ จดหมาย และระบบสื่อสาร-การขนส่งของไปรษณีย์ในฐานะเครื่องมือทางการทูตเชิงวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยกับคนจีน จะถ่ายทอดเรื่องราวของความทรงจำในรูปแบบของนิทรรศการแสตมป์ จดหมาย และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมร่วมสมัย ช่วยเชื่อมโยงประสบการณ์ไทย–จีน ทั้งงานศิลปะ งานหัตถกรรม งานเขียน ฯลฯ ที่ล้วนสะท้อนคุณค่าในหลากหลายมิติ
โดยมุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสกับพลังของวัฒนธรรมเชิงสื่อสาร ที่เชื่อมโยงระหว่าง Soft Power กับเส้นทางเศรษฐกิจ และเปิดมุมใหม่ให้เห็นว่า “ไปรษณีย์ไทย” ยังเป็นจุดเชื่อมสำคัญของภูมิภาคในยุคเศรษฐกิจไร้พรมแดน
ทั้งนี้ ภายในงานมีไฮไลต์ที่สำคัญ อาทิ นิทรรศการพรรณไม้พระนาม “คำหยาดศรีสิรินธร” นิทรรศการภาพตราไปรษณียากรภาพฝีพระหัตถ์ นิทรรศการ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย – จีน การเดินทางของโพยก๊วน คอลเลคชันแสตมป์จากประเทศจีน ที่ทำการไปรษณีย์สยามนอกเขตประเทศไทย การแสดงจากศิลปิน Meet&Greet และมินิคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น โอ๊ต ภาสกร เก่ง-น้ำปิง และนุนิว พร้อมมินิคอนเสิร์ตจาก SERIOUS BACON การแสดงบนเวทีเชิงวัฒนธรรมไม่ว่าจะเป็น งิ้วเปลี่ยนหน้ากากลำตัดแม่ศรีนวล กิจกรรม Workshop ตลาดแห่งมิตรภาพที่รวมร้านเด็ด ของอร่อยจาก 2 วัฒนธรรม ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 12 สิงหาคม 2568 นี้ ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก
ไปดูแสตมป์หายาก
นายชาญชัย กรรณสูต นายกสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ กล่าวว่า งานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย พ.ศ. 2568 (THAILAND 2025 Asian International Stamp Exhibition) เป็นจุดหมายสำคัญของประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพเวทีการประกวดและแสดงแสตมป์ระดับนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่ ปีนี้โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 27 ประเทศ จัดแสดงแสตมป์หายากและมีผลงานเข้าร่วมกว่า 1,200 เฟรม เป็นการยืนยันถึงศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไปรษณีย์ในภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค
“ภายในงานนอกจาก นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “ด้วยพระเมตตาแห่งองค์อุปถัมภ์” จัดแสดงภาพตราไปรษณียากรภาพฝีพระหัตถ์ พระราชกรณียกิจด้านการสะสม ภาพถ่ายหรือวีดีทัศน์พระราชดํารัสเกี่ยวกับตราไปรษณียากร ยังมีคอลเลคชันแสตมป์จากประเทศจีน นิทรรศการสิ่งแสดงเกียรติยศจากสมาชิกที่เคยได้รับรางวัลกรังด์ปรีซ์มาแล้ว ซึ่งเป็นผลงานที่ทรงคุณค่าและหายากมากคอลเลคชันประวัติศาสตร์ที่ทำการไปรษณีย์มองโกเลีย ค.ศ. 1854 – 1921 ส่งตรงจากประเทศจีน “
ศาสตราจารย์ ดร.สิทธิพล เครือรัฐติกาล อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ และประธานสภาอาจารย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นว่า พัฒนาการของมิตรภาพระหว่างไทย-จีนไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในมิติทางเศรษฐกิจหรือการเมือง หากแต่ค่อย ๆ ถักทอสู่การเป็น “หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์” ที่เติบโตไปพร้อมกัน และความเจริญก้าวหน้าของจีนในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ได้ส่งอิทธิพลต่อการพัฒนาของไทยอย่างแยกไม่ออก
ไทยจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ ปรับตัว และแสวงหาจุดร่วมกับจีนอย่างสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของความสัมพันธ์คือความเข้าใจซึ่งกันและกันการสร้างบทสนทนาทางวัฒนธรรมที่จริงใจจึงเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และในจุดนี้หน่วยงานอย่างไปรษณีย์ไทย พร้อมทำหน้าที่เป็น “ทูตวัฒนธรรม” โดยอ้อมมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านตราไปรษณียากรที่บันทึกเรื่องราว และภาพจำร่วมกันระหว่างไทย-จีน ส่งเสริมและร้อยเรียงความเข้าใจของทั้งสองประเทศได้อย่างแนบเนียน
ดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส ขณะกำลังโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด
ทรูวิชั่นส์นาวปล่อยแพ็กเกจใหม่ยกชุดสตรีมิ่งทั้งบันเทิงและกีฬา
App Store คัดแอปเด็ดตัวช่วยรับเปิดเรียนทั้งสายศิลป์และสายวิทย์