“ปอด” เป็นอวัยวะในระบบทางเดินหายใจที่อยู่ภายในทรวงอกทั้ง 2 ข้าง ซึ่งมีลักษณะเป็นเนื้อหยุ่นๆ สีออกชมพู มีหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซจากอากาศที่เราหายใจเข้าไป คือ ในช่วงหายใจเข้าปอดจะทาหน้าที่นาก๊าซออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงร่างกาย และในขณะเดียวกันปอดจะขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการออกมากับลมหายใจ
ผศ.นพ.ศิระ เลาหทัย ศัลยแพทย์ทรวงอกเชี่ยวชาญด้านผ่าตัดส่องกล้องโรงพยาบาลวชิรพยาบาล กล่าวว่า ปกติเนื้อปอดจะเป็นอวัยวะที่ปราศจากเชื้อโรค เมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ เข้าไปถึงเนื้อปอดจะส่งผลให้เนื้อปอดมีการอักเสบและมีการบวมเกิดขึ้น ในคนที่มีสุขภาพดีร่างกายจะมีระบบภูมิต้านทานโรคที่ดีที่จะช่วยขจัดเชื้อโรค และของเสียในทางเดินหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือที่เรียกว่าการไอนั้นเอง แต่ในคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันลดลง หากปอดติดเชื้อก็จะเกิดปอดอักเสบได้ง่ายขึ้นและมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบ ได้แก่
สำหรับอาการแสดงของโรคปอดอักเสบนั้น ผู้ป่วยมักมีอาการไข้ ไอ เจ็บหน้าอก และหอบเหนื่อยเป็นสำคัญ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจมีไม่ครบทุกอย่าง โดยอาการที่เราจะสงสัยภาวะปอดอักเสบนั้น ซึ่งมีรายละเอียดทั้ง 10 ข้อ ดังนี้ 1.ไข้ มักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันหรือมีไข้ตัวร้อนตลอดเวลา 2.อาจมีอาการหนาวสั่นมาก มักจะพบขณะมีไข้ 3.อาการหอบเหนื่อย ผู้ป่วยมักจะมีอาการหายใจหอบเหนื่อย หายใจเร็ว อาจจะมีการใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อช่วยหายใจ 4. ถ้าเป็นมากจะมีอาการปากเขียว ตัวเขียว 5.มีอาการไอ โดยเสมหะ อาจมีขาวขุ่นหรือเป็นหนองได้ 6.มีอาการเจ็บหน้าอก อาจเจ็บแปล๊บเวลาหายใจเข้าหรือเวลาที่ไอแรง ๆ 7. ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะ เนื่องจากมีไข้ 8. ผู้ป่วยอาจมีปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย 9. ผู้ป่วยอาจมีอาการซึม สับสน และ 10. ผู้ป่วยมีประวัติสำลักอาหาร
ผู้ป่วยที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคในช่องทรวงอกสามารถปรึกษาได้ที่ เพจ เฟซบุ๊ก “ผ่าตัดปอดโดยหมอศิระ” หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ lineofficial : @lungsurgeryth
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้