สุขภาพ

สิทธิบัตรทอง ทำกายภาพได้ที่คลินิก

24 กันยายน 2566

ปัจจุบันผู้ป่วยสิทธิบัตรทองใน 4 กลุ่มอาการ ได้แก่ หลอดเลือดสมอง, คนไข้ที่ได้รับอุบัติเหตุทางสมอง, กลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บกระดูกสันหลัง และ กลุ่มที่สะโพกหักชนิดไม่ร้ายแรง สามารถไปรับบริการที่คลินิกกายภาพบำบัดภาคเอกชนได้แล้ว แต่หลายคนยังไม่รู้สิทธิของตัวเอง ขณะที่ผู้ให้บริการบางส่วนก็ยังไม่ทราบว่ามีทางเลือกให้ผู้ป่วยไปรับบริการนอกโรงพยาบาลได้

รศ.ดร.กภ.มัณฑนา วงศ์ศิรินวรัตน์ อาจารย์ประจำคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล และนายกสมาคมกายภาพบำบัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยปัจจัยจากภาวะสังคมสูงอายุและโรคเรื้อรังต่างๆ ทำให้ผู้ป่วยผู้ป่วยระยะกลาง (IMC) สิทธิบัตรทอง ใน 4 กลุ่มอาการ คือ 1.หลอดเลือดสมอง 2.คนไข้ที่ได้รับอุบัติเหตุทางสมอง 3.กลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บกระดูกสันหลัง และ 4. กลุ่มที่สะโพกหักชนิดไม่ร้ายแรง มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นขณะที่โรงพยาบาลก็มีข้อจำกัดในด้านจำนวนของนักกายภาพบำบัด อีกทั้งนักกายภาพบำบัดก็ต้องดูแลผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ นอกเหนือจาก 4 กลุ่มอาการนี้ ทำให้ไม่สามารถนัดผู้ป่วยมารับการฟื้นฟูได้มากเท่าที่ต้องการ ทำให้ผู้ป่วยได้รับบริการไม่ครบโดส 20-30 ครั้ง การฟื้นตัวของผู้ป่วยก็จะเป็นไปได้ยาก

ขณะที่ในมุมของผู้ป่วยเองซึ่งเคลื่อนไหวไม่สะดวก ก็มีความลำบากในการเดินทางมาโรงพยาบาล ถ้าเป็นคนที่มีฐานะก็มักจะจ้างนักกายภาพไปดูแลที่บ้าน แต่ถ้าไม่มีกำลังทรัพย์ก็มักจะดูแลกันตามมีตามเกิดหรือทำตามที่ได้รับการสอนไปครั้งสุดท้าย ดังนั้น การมีคลินิกกายภาพบำบัดเอกชนเข้าร่วมให้บริการประชาชนสิทธิบัตรทอง โดยมี สปสช. สนับสนุนในเรื่องค่าใช้จ่าย จึงเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการ และไม่ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้หายออกไปจากระบบ

การจัดบริการรูปแบบนี้ ทางสภากายภาพบำบัด ได้ร่วมมือกับ สปสช. ในการนำร่องในพื้นที่ กทม. มาระยะหนึ่ง และปรากฏว่าสามารถเพิ่มการเข้าถึงบริการได้มากขึ้น และช่วยลดภาระของทั้งโรงพยาบาลและญาติผู้ป่วย อีกทั้งมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่ามีความคุ้มค่ามาก อย่างไรก็ดี การดำเนินการในระยะที่ผ่านก็ยังมีข้อติดขัดในด้านการรับรู้ของทั้งประชาชนและหน่วยบริการ เพราะในฝั่งของประชาชนเองก็ยังไม่รู้ว่าถ้าป่วยด้วย 4 กลุ่มอาการนี้ เมื่อออกจากโรงพยาบาลสามารถที่จะรับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพได้ที่คลินิกกายภาพบำบัดเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ขณะเดียวกัน ในฝั่งของผู้ให้บริการ บางครั้งบุคลากรในโรงพยาบาลก็ยังไม่รู้ว่ามีทางเลือกที่ให้คนไข้ไปรับบริการกายภาพบำบัดโดยที่ไม่ต้องไปโรงพยาบาลก็ได้ ซึ่งในระยะต่อไปจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้สิทธิของตัวเองให้มากขึ้น รวมทั้งให้หน่วยบริการทราบเกี่ยวกับการจัดระบบบริการแบบนี้มากขึ้น

 “ในขณะนี้ ทางสภากายภาพบำบัดเองยังคงเปิดรับสมัครคลินิกกายภาพบำบัดเอกชนที่สนใจเข้ามาร่วมดูแลประชาชน โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีนักกายภาพบำบัดที่พร้อมให้บริการ มีการจดทะเบียนแล้ว และมีระบบการส่งต่อข้อมูล นอกจากนี้ สภากายภาพบำบัดเองก็กำลังเร่งจัดทำมาตรฐานคลินิกกายภาพบำบัด ซึ่งปกติแล้ว คลินิกจะได้มาตรฐานจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพอยู่แล้วถึงสามารถเปิดคลินิกได้ แต่หากได้รับการรับรองมาตรฐานจากสภากายภาพบำบัด จะช่วยทำให้ประชาชนมั่นใจขึ้นว่าในคลินิกนั้นมีนักกายภาพบำบัดที่สามารถที่จะให้บริการได้อย่างครอบคลุมและมีคุณภาพ ซึ่งคาดว่ามาตรฐานฉบับนี้จะสามารถประกาศใช้ได้ภายใน 1 ปีนี้” รศ.ดร.กภ.มัณฑนา วงศ์ศิรินวรัตน์ กล่าวสรุป