เทคโนโลยี

รัก  Galaxy Z Fold6 ไม่ถนัด Galaxy Z Flip 6

25 กันยายน 2567

รัก  Galaxy Z Fold6 ไม่ชอบ Galaxy Z Flip 6

ทุกครั้งที่หยิบ Galaxy Z Fold  ตัวเก่งออกมา ออกมาใช้ มักจะได้คำถามว่า ทำไมถึงใช้โทรศัพท์รุ่นนี้

ปีนี้ รุ่นล่าสุด คือ Galaxy Z Flip 6 และ Galaxy Z Fold 6  จุดเด่นอยู่ที่การอัปเกรดฟีเจอร์ใหม่  ใส่กล้อง 50 MP ภาพคมชัดมากขึ้น  ฟีเจอร์ Galaxy AI

จอพับแข็งแรงทนทานกว่าเดิม ถึง 2 เท่า ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความทนทาน ทนน้ำ ทนฝุ่นเป็นครั้งแรก พร้อมแบตเตอรี่อึดขึ้น

ระบบระบายความร้อน  vapor chamber เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ

ไม่ขอลงรายละเอียด  อยากรู้เพิ่ม https://smsng.store/Buy_GalaxyZFlip6

ผู้เขียนนั้นรัก  Galaxy Z Fold มากกว่า Galaxy Z Flip  เพราะตรงกับพฤติกรรมการใช้งานของตัวเองมากกว่า

กำเนิด Galaxy Z Fold

Galaxy Fold  รุ่นแรก แจ้งเกิดเมื่อปี 2019   ซัมซุงประกาศพาผู้คนเข้าสู่ยุคใหม่ของโทรศัพท์สามารถพับได้ ในรูปแบบการพับและกางออก

ความหนาเมื่อพับ: 15.7 – 17.1 มม.

ความหนาเมื่อกางออก: 6.9-7.6 มม.

น้ำหนัก: 276 ก.

  รูปทรงแหวกแนวไม่เหมือนใคร  เป็นเครื่องแรกที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ แต่มีขนาดกะทัดรัดพกพาง่ายเมื่อพับ การ “พับและกางออก” กลายเป็นรูปแบบใหม่ของการใช้งานมือถือ

ในปีนั้นซัมซุงบอกว่า การพับเข้าด้านในไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยและใช้งานง่าย แต่ยังปกป้องจอแสดงผลอีกด้วย มือถือสามารถเปิดหรือปิดได้เหมือนเปิดหนังสือ แต่ยังคงแบนและบางเมื่อพับ มีขนาดเท่าฝ่ามือเพื่อความสะดวกสบาย

Galaxy Fold เครื่องแรกของ Samsung  ประสบความสำเร็จ แม้จะมีความหนาสูงสุดหลังจากพับ 17.1 มิลลิเมตร ถือเป็นการเปิดตัวมือถือจอพับสุดอัจฉริยะครั้งแรก

ทั้งยังขายดิบขายดีแม้ราคาจะสูงลิบ

Galaxy Z Fold6

มีโอกาสจับรุ่นนี้อยู่ไม่นานนัก  แม้ความรู้สึกแรกจะบอกว่า ไม่ว้าว  แต่เมื่อนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันเหมือนที่เคยคุ้นเคยกับ Galaxy Z Fold รุ่นแรก ซึ่งกลายเป็นของแรร์ไอเท็มไปแล้ว  ก็เห็นได้ชัดถึงความแตกต่างทั้งน้ำหนัก วัสดุ จอ การพับที่แนบเนียนมากขึ้น แนบสนิทมากขึ้น และกล้องที่ดีขึ้นกว่าเดิม  (ห้ามเอากล้องไปเทียบกับ Galaxy S24 นะจ๊ะ อันนั้นกล้องขั้นเทพ)

เหมือนที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่า ทำไมใช้โทรศัพท์รุ่นนี้

คำตอบก็คือ แม้จะใช้ iPhone เป็นเครื่องหลัก แต่ในกระเป๋ามี Galaxy Z Fold6  พกติดตัวทุกครั้ง เอาไว้แก้ไขงานเขียน  แก้ไขภาพ ข้อมูลอินโฟแบบด่วน ๆ  วงปุ๊ปปั๊ป เวลาไม่ได้พก iPad

แต่ที่ขาดไม่ได้คือ เอาไว้อ่าน E-Book  นวนิยายเรื่องโปรด  ขนาดจอที่ใหญ่ทำให้อ่านง่าย ถือได้มือเดียวเหมือนถือหนังสือ เหมาะมากเวลาเดินทาง

ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องไม่มาก จอคุณภาพดี ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ ยืนบนรถไฟฟ้านี่ฟินมาก

ฟีเจอร์ AI

Live Translate   แปลการสนทนาทางโทรศัพท์ได้โดยตรง 

  ฟีเจอร์ Interpreter Interpreter  แสดงผลการแปลบทสนทนาบนทั้งหน้าจอหลักและหน้าจอฝาปิด ช่วยให้การสื่อสารเป็นธรรมชาติและเข้าใจกันได้

  ทั้งสองฟีเจอร์นี้ การใช้งานต้องเชื่อมต่อเครือข่ายและเข้าสู่ระบบบัญชี Samsung  ใช้ได้เฉพาะในแอปโทรศัพท์ Samsung ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าและแอปของบุคคลที่สามบางตัวเท่านั้น ภาษาบางภาษาอาจต้องดาวน์โหลดชุดภาษา   ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่ได้รับประกันว่าเป๊ะ แต่ช่วยให้เข้าใจและไปต่อได้

 ฟีเจอร์ Note Assist  อันนี้ก็ใช้ประจำ  จดโน๊ตสั้นๆ เวลาอยากขีดเขียนไอเดียฉบับย่อไว้ก่อน  มีความสามารถถอดความ แปล และสรุปเสียงบันทึกได้ทันทีในขณะเดินทาง

 

ราคา

Galaxy Z Fold6 มีสีให้เลือก ได้แก่ Silver Shadow, Pink และ Navy ส่วน Galaxy Z Flip6 มีสีให้เลือก ได้แก่ Silver Shadow, Yellow, Blue และ Mint โดยสีพิเศษเฉพาะของซีรีส์ Galaxy Z ได้แก่ สีพิเศษของ Galaxy Z Flip6: Crafted Black, White, Peach และสีพิเศษของ Galaxy Z Fold6: Crafted Black, White

Galaxy Z Flip6 ความจุ 256GB ราคา 42,900 บาท ความจุ 512GB ราคา 47,900 บาท

Galaxy Z Fold6 ความจุ 256GB ราคา 63,900 บาท, ความจุ 512GB ราคา 68,900 บาท และความจุ 1TB ราคา 78,900 บาท  สั่งซื้อ  https://smsng.store/Buy_GalaxyZFlip6

 

ผู้เขียน
ปรารถนา ฉายประเสริฐ

บรรณาธิการเทคโนโลยี