บริษัท เช็ค พอยท์® ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีส์ จำกัด (NASDAQ: CHKP) ผู้ให้บริการโซลูชันชั้นนำด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลก ได้มาจัดงาน ซีพีเอ็กซ์ เอแพค 2025 (CPX APAC 2025) กรุงเทพฯ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ 2568
ซีพีเอ็กซ์ เอแพค 2025 (CPX APAC 2025) เป็นงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำระดับโลก
เช็ค พอยท์® ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีส์ ระบุว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติด้านความปลอดภัยไซเบอร์อย่างเห็นได้ชัด
โดยองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยกำลังเผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์โดยเฉลี่ย 3,180 ครั้งต่อสัปดาห์ต่อองค์กรในช่วงหกเดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 – มกราคม 2568 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 1,843 ครั้งต่อสัปดาห์ต่อองค์กร
สถิติที่น่าตกใจนี้ เน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งต้องดำเนินไปพร้อมๆ กับการเดินหน้าสู่ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) ของประเทศ
ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เร่งด่วนที่สุดในประเทศไทย
ได้แก่ การหลอกลวงทางฟิชชิ่งและมัลแวร์ทางธนาคาร ซึ่งภัยคุกคามทั้งสองรูปแบบนี้มีอัตราการแพร่ระบาดสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ
จากรายงานของเช็ค พอยท์ อินเทลลิเจ้นซ์ (Check Point Intelligence) พบว่า เหตุการณ์แรนซัมแวร์ในประเทศไทยคิดเป็น 6% ของการโจมตีทางไซเบอร์เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 4% ขณะที่มัลแวร์ทางธนาคารคิดเป็น 9.5% เมื่อเทียบกับ 2.8% ทั่วโลก
แนวโน้มที่น่ากังวลดังกล่าวสอดคล้องกับผลการสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เผยให้เห็นว่า ลูกค้าของธนาคารไทยสูญเสียเงินมากกว่า 60,000 ล้านบาท จากการฉ้อโกงทางการเงินออนไลน์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผู้ก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ยังใช้ประโยชน์จากโมเดล AI เช่น DeepSeek มากขึ้น โดยมีการนำไปใช้เพื่อขยายขอบเขตการดำเนินการอันทุจริต เช่น การปลอมแปลงตัวตน การโจรกรรมทางการเงิน และการหลบเลี่ยงการรักษาความปลอดภัยของธนาคาร การหลอกลวงในรูปแบบฟิชชิ่งโดยใช้เทคโนโลยี AI การใช้เสียงปลอมเพื่อหลอกลวง และการสร้างเนื้อหาลวงด้วย AI กำลังแพร่หลายอย่างมาก
การโจมตีเหล่านี้มีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การขโมยข้อมูลสามารถดำเนินการได้โดยอัตโนมัติ ตลอดจนสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับการฉ้อโกง และสามารถสร้างแคมเปญสแปมจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพจนน่าตกใจ
คลาวด์ เฟิร์ส (Cloud-First) และความจำเป็นในการรับมือภัยไซเบอร์
รัฐบาลไทยเดินหน้าอย่างแข็งขันในการส่งเสริมนโยบาย คลาวด์ เฟิร์ส เพื่อยกระดับแนวปราการป้องกันทางดิจิทัล ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ หน่วยงานภาครัฐของไทยทั้งหมดกำลัง เตรียมเปลี่ยนระบบไปเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบภายในปีนี้
คาดการณ์ว่า ตลาดการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ในประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 25% และคาดว่าจะเติบโตถึง 17.37 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2572 อย่
ขีดความสามารถใหม่ของแพลตฟอร์ม Infinity
นายชาญวิทย์ อิทธิวัฒนะ ผู้จัดการสาขาประจำประเทศไทย บริษัท เช็ค พอยท์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีส์ เปิดเผยว่า นโยบายคลาวด์ เฟิร์ส (Cloud First Policy) ของรัฐบาลถือเป็นก้าวสำคัญสู่ระบบดิจิทัลให้ทันสมัย แต่หน่วยงานต่างๆ จะต้องตระหนักว่าการนำระบบคลาวด์มาใช้ไม่ได้ปลอดภัยเต็มร้อย
ดังนั้นจึงต้องอาศัยแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ และด้วยจำนวนภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคามขั้นสูงและการตรวจสอบความปลอดภัยอัตโนมัติเพื่อให้ก้าวล้ำแซงหน้าการโจมตีที่มีการพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลา
บริการจากเช็ค พอยท์ ซอฟต์แวร์
ก่อนหน้านี้เช็ค พอยท์ เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ด้วยเทคโนโลยี AI จำนวน 6 รายการ ในงานซีพีเอ็กซ์ เวียนนา (CPX Vienna) เน้นออกแบบเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยภายใต้แนวทาง Zero Trust รวมทั้งยกระดับการป้องกันภัยคุกคาม ลดความซับซ้อน และทำให้การดำเนินการด้านความปลอดภัยง่ายขึ้นกว่าเดิม
แพลตฟอร์ม Infinity ประกอบด้วย:
Quantum Policy Insights: ปรับปรุงนโยบายด้านความปลอดภัยด้วยการแนะนำการปรับปรุงและการบังคับใช้ Zero Trust ซึ่งเป็นแนวคิดในการออกแบบระบบความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีหลักการ “ไม่เชื่อใครทั้งสิ้น”
Quantum Policy Auditor: ตรวจสอบความสอดคล้องตามกฎระเบียบด้วยการวิเคราะห์กฎความปลอดภัยนับพันรายการภายในไม่กี่วินาที
Infinity Identity: รวมศูนย์การจัดการข้อมูลประจำตัวบนแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งขณะนี้ได้ผสานรวมเข้ากับ Microsoft Defender, Microsoft Intune และ Harmony Endpoint เพื่อให้เกิดการครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น
Infinity Playblocks: เสริมสร้างให้เกิดการตอบสนองด้านความปลอดภัยโดยอัตโนมัติด้วยคู่มือใช้งานเบื้องต้นมากกว่า 100 รายการ ซึ่งรวมถึงการป้องกันภัยคุกคาม การแก้ปัญหาอัตโนมัติ การรายงาน และอื่นๆ อีกมากมาย
Infinity AIOps: ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อตรวจสอบเกตเวย์ คาดการณ์ความล้มเหลว และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงสร้างพื้นฐาน
Infinity AI Copilot: ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วย GenAI ผ่านการแชท โดยเป็นการให้ข้อมูลเชิงลึกด้านความปลอดภัยตามบริบทแบบเรียลไทม์
กฎใหม่ Facebook วิดีโอถ่ายทอดสดเล่นซ้ำ-แชร์ได้ 30 วันก่อนถูกลบ
แอลจีดึง ‘เจฟ ซาเตอร์’ แบรนด์แอมบาสเดอร์เจาะตลาดแอร์ของคนรุ่นใหม่