‘เมย์’ วรดา สอนซ้าย วัย 23 ปี เจ้าของบ้านสวนวรดา ธุรกิจเกษตร-สวนฝรั่งไส้แดง ผู้คว้ารางวัล Young Smart Farmer ดีเด่นของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปี 2024
เธอเป็นอดีตนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ของ กสศ. จบจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม
การศึกษาคือโอกาสเปลี่ยนชีวิต
เมย์เกิดในครอบครัวชาวนาในตำบลเขวา อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ความทรงจำในวัยเด็กของเธอ เต็มไปด้วยภาพของครอบครัวที่ใช้ชีวิตอย่างปากกัดตีนถีบ อาหารการกินในแต่ละวันขึ้นอยู่กับรายได้ หนี้สินมากมายทำได้แค่ชำระดอกเบี้ย
แม่ของเมย์เป็นโรคหัวใจมา 20 ปีแล้ว ทำงานไม่ได้
เธอมีพ่อเป็นเสาหลัก แต่ก็ไม่ได้มีงานหรือรายได้ประจำ
แต่ละวันพ่อคอยหาปูหาปลาตอนกลางคืนเพื่อนำมาขายตอนเช้า ถ้าวันไหนหาไม่ได้ก็ไม่มีเงิน นาน ๆ ทีถึงจะมีนายหน้ามาจ้างพ่อไปช่วยงานรับเหมาก่อสร้างวันละ 300 บาท ซึ่งมันก็ไม่ยั่งยืน ใช้เลี้ยงคน 4-5 คนในครอบครัวก็หมดแล้ว
เมย์เรียนที่โรงเรียนผดุงนารี ถึง ม.6 พร้อมเพื่อน ๆ แล้วตัดสินใจจะไม่เรียนต่อเพราะสงสารพ่อแม่ คิดเอาไว้ว่าจะไปหางานที่กรุงเทพ แต่แม่ไม่ยอม
“แม่ไปหายืมเงินมาเพื่อให้หนูไปสมัครเรียนต่อ ซึ่งต่อให้สมัครเรียนจ่ายเงินไปแล้ว แต่หนูก็ไม่รู้ว่าจะเรียนได้ถึงไหน ถ้าเรียนต่อจะหนักพ่อแม่ เลยคิดว่า จะไม่เรียนแล้วไปกรุงเทพหางานทำดีกว่าไหม”
มีอาจารย์ที่โรงเรียนแนะนำทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ของ กสศ. เมย์ตัดสินใจเลยว่าจะสมัคร อาจารย์แวะมาตรวจเยี่ยมที่บ้านแล้วเอาข้อมูลต่าง ๆ มาให้กรอก ซึ่งก็ตรงกับเงื่อนไขได้รับทุน เพราะมีเกรดเฉลี่ยและคุณสมบัติต่าง ๆ ครบตรงกับที่ทุนระบุไว้
เอาเงินทุนการศึกษาไปต่อยอด
เมย์ได้ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง เรียนที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม สาขาพืชสวน ซึ่งเป็นสาขาที่เธอบอกว่า ชอบเป็นอับดับหนึ่ง ระหว่างนั้น กสศ. จะจัดการจ่ายค่าเล่าเรียนให้ แยกกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเดือนละ 7,500 บาท
“งวดแรกเงินเข้ามาทีเดียว 30,000 กว่าบาท ด้วยความที่หนูไม่เคยมีเงินเข้าบัญชีขนาดนี้ ก็เริ่มคิดถึงสิ่งที่อยากได้ เช่น โทรศัพท์รุ่นใหม่ แต่คิดไปคิดมาก็คิดได้ว่าโทรศัพท์เก่าก็ยังใช้ได้อยู่ สู้เอาเงินนี้ไปต่อยอดให้มันงอกเงยเพิ่มขึ้นดีกว่า”
เมย์แบ่งเงินส่วนหนึ่ง ไปลงทุนทำปิ้งย่างหม่าล่าขายในหมู่บ้าน จนร้านเล็ก ๆ เริ่มใหญ่ขึ้น
ระหว่างเรียนก็นำความรู้มาปลูกผักใส่ถาดขายให้กับร้านพันธุ์ไม้ เช่น กล้าพริก มะเขือ มะเขือเทศ ขายเป็นถาดถาดละร้อย ก็เลยได้เงินเพิ่มขึ้นมาอีก ได้มาใช้จ่ายทั้งครอบครัวและเอาไปเรียนด้วย
ร้านปิ้งย่างหม่าล่า เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิดตัวลง เพราะเธอต้องไปฝึกงานที่สวนเกษตรแห่งหนึ่งในอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
เป็นจุดเปลี่ยนทำให้เกิด ‘บ้านสวนวรดา’ สวนฝรั่งไส้แดงที่โด่งดัง สร้างงานสร้างรายได้สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตจนถึงทุกวันนี้
ช่วงฝึกงานเมย์เรียนรู้เทคนิคการดูแลสวน พร้อมกับหางานล้างจานในโรงแรมเป็นอาชีพเสริม แต่ค่าจ้างที่ได้เพียงพอสำหรับการเลี้ยงชีพตัวเองเท่านั้น เธอจึงริเริ่มความคิดที่จะเป็นนายหน้าขายต้นฝรั่งไส้แดง
จึงคุยกับผู้จัดการสวน ขอเป็นนายหน้าขายผ่านช่องทางออนไลน์ ผู้จัดการเลยให้เรทมาว่า ต้นฝรั่งนี้ราคาเท่านี้นะ เมย์จะไปขายเท่าไหร่ให้เป็นกำไรก็ได้ เธอจึงเริ่มโพสต์ให้ดูโดดเด่นไม่ธรรมดา
“เวลาลงไปทำงานหนูจะถ่ายคลิปการดูแล พร้อมให้คำแนะนำสายพันธุ์ว่ามาจากไหน มีความแตกต่างอย่างไร ควรปลูกยังไง เมื่อสี่ปีก่อนฝรั่งพันธุ์หงเป่าสือยังไม่มีใครรู้จัก หนูก็พูดว่าในอนาคตฝรั่งตัวนี้จะเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ของไทย ปรากฏว่าคลิปนี้ดังมาก ทำให้คนกดซื้อผ่านช่องทางหน้าเพจเยอะมาก คืนนั้นหนูขายได้เงินเป็นแสนเลย หักต้นทุนต้นไม้ก็เหลือเงินห้าหกหมื่น”
กำเนิดบ้านสวนวรดา สวนฝรั่งไส้แดงอินทรีย์
การเป็นนายหน้าขายพันธุ์ไม้บนโลกออนไลน์สร้างรายได้จำนวนมาก เมย์ก็เริ่มวางแผนให้กับอนาคตของตัวเอง เธอบอกพ่อแม่ให้เตรียมที่นาไว้สำหรับปลูกฝรั่งไส้แดงพันธุ์หงเป่าสือแทนข้าว
เมย์ฝึกงานจบตอนอายุ 19 ปี พร้อมกับเงินในบัญชี 7 แสนกว่าบาทจากค่าคอมมิชชั่น และต้นฝรั่งในสวนที่บ้านก็โตพอดี มันทยอยออกผลให้เมย์กลับมาขาย
บ้านสวนวรดา กลายเป็นสวนฝรั่งไส้แดงอินทรีย์ที่โด่งดังและประสบความสำเร็จจากการขายกิ่งพันธุ์ รับเหมาปลูก ทำระบบน้ำ รวมถึงการขายผลฝรั่งทั้งในและนอกฤดูกาล ส่งผลให้เกษตรกรตัวเล็ก ๆ อย่างเมย์ กลายเป็นแรงบันดาลใจในการพาตัวเองและครอบครัวก้าวออกจากวงจรความยากจนข้ามรุ่น
“หนูเชื่อเสมอว่า ขอแค่มีความฝันเราก็ไปถึงจุดหมายแล้วครึ่งหนึ่ง เหลือก็แค่ลงมือทำการทำตามความฝันทำให้หนูรู้สึกสนุก รู้สึกภูมิใจ และไม่กลัวลำบากเลยเมื่อเทียบกับความลำบากตอนเด็ก ๆ ที่หนูต้องเผชิญ หนูไปตัดอ้อยกับพ่อแม่ที่เมืองกาญจน์บ้าง กาฬสินธุ์บ้าง มันเป็นความทรงจำที่ฝังอยู่ในหัวเราว่าตอนนั้นมันลำบากที่สุดแล้ว การไม่มีอะไรจะกินมันลำบากที่สุดแล้ว ครอบครัวหนูเคยอยู่ในจุดที่เคยมีแค่ไข่กับน้ำปลา มันเลยทำให้หนูรู้สึกว่าความจนมันน่ากลัว ปฏิญาณกับตัวเองว่าถ้าวันไหนรวยฉันจะไม่มีวันกลับมาจนอีก”
ปัจจุบันเมย์เป็นเสาหลักให้กับครอบครัวได้ มีเงินซื้อรถ ซื้อที่ มีเงินเก็บที่ได้มาจากการทำฝรั่ง จนตอนนี้พื้นที่สวนจาก 2 ไร่ 3 งาน ขยายกลายเป็น 6 ไร่
เมย์บอกว่า ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ทำให้คุณภาพครอบครัว คุณภาพการศึกษา คุณภาพชีวิตของเธอดีขึ้น มันเป็นการให้โอกาสที่ช่วยให้ความฝันของเธอเป็นจริงขึ้นมาโดยไม่ต้องทุลักทุเลมาก
ขอบคุณเรื่องและภาพจาก https://www.facebook.com/EEFthailand?
แกร็บฟู้ดรับเทรนด์ผู้บริโภครัดเข็มขัดเปิดตัว 4 พรีเซ็นเตอร์ใหม่ไฮไลท์ Hot Deals