ปลายสัปดาห์ที่แล้ว บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด (Canon) ชวนไปดูไลน์การผลิตพรินเตอร์คุณภาพระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ Made in Thailand ที่โรงงานในจังหวัดปราจีนบุรี
ต้องขออภัยที่ไม่มีรูปภายในโรงงานมาให้ดู เพราะเป็นกฎของบริษัท ไม่แตกต่างจากกฎของโรงงานการผลิตทั่วโลก
แคนนอน พาไปดูโรงงานผลิตพรินเตอร์ก็เพื่อยืนยันถึงคุณภาพของสินค้า Made in Thailand ที่ผลิตพรินเตอร์ส่งไปขายทั่วโลก
การชมโรงงานแคนนอนครั้งนี้ได้เห็นไลน์การผลิต การตรวจสอบคุณภาพ การบรรจุกล่องสินค้าลงตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งต้องใช้พนักงานโหลดที่ฝึกมาโดยเฉพาะ แค่ยืนดูก็ยังรู้สึกว่ายาก เพราะจะต้องขับรถโฟล์คลิฟต์นำกล่องสินค้าไปเรียงในตู้คอนเนอร์ให้เหลือระยะห่างระหว่างกล่องเพียง 5 ซม.
แม้แต่ระหว่างเข้าไลน์การผลิต หากพนักงานคนนั้นต้องไปเข้าห้องน้ำ ก็จะมีพนักงานที่มีระดับฝีมือความชำนาญใกล้เคียงกันมาแตะมือต่อทันที เพื่อไม่ให้หยุดชะงักระหว่างการผลิต ซึ่งการควบคุมจะมอนิเตอร์แบบเรียลไทม์ทั้งโรงงาน
ไทยศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีระดับโลก
นายฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า แคนนอนมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ ซึ่งไม่เพียงแค่ฟีเจอร์ใช้งานที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโซลูชันการพิมพ์ที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจในยุค AI เพราะในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วความน่าเชื่อถือ ความมั่นคงปลอดภัย และการเชื่อมต่อออนไลน์ ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในธุรกิจทุกประเภท
การพัฒนา imageFORCE Series เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันเจเนอเรชันใหม่ เพื่อสนับสนุนงานพิมพ์ได้อย่างชาญฉลาด พร้อมกับผสานแนวคิดความยั่งยืนเข้ากับการออกแบบผลิตภัณฑ์ ทั้งในด้านวัสดุ การประหยัดพลังงาน และการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่าในระยะยาว
แคนนอนมีเป้าหมายในการพัฒนานวัตกรรมที่ดีที่สุดสู่ผู้คนทั่วโลก ผ่านการจัดตั้งศูนย์การผลิตระดับโลกในประเทศไทย ซึ่งมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงสุดโดยอาศัยทักษะฝีมือแรงงานไทยที่มีความเชี่ยวชาญเทียบเท่าสากล
นายมาโกโตะ นากามูระ ประธานบริษัท แคนนอน ปราจีนบุรี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน imageFORCE Series สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีระดับโลก แคนนอนให้ความสำคัญกับการส่งมอบนวัตกรรมคุณภาพสูงอย่างยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โรงงานแคนนอนปราจีนบุรีมีการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยและใช้วัสดุรีไซเคิลกว่า 30%
นอกจากนี้เรายังคงยึดหลักความละเอียดและแม่นยำในการผลิตควบคู่กับการดูแลพนักงาน เพราะเราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเริ่มต้นจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี
ปัจจุบัน โรงงานแคนนอนปราจีนบุรี ในประเทศไทยผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน รุ่น imageRUNNER และ imageRUNNER Advance DX ทั้งหมด 20 รุ่น และกำลังผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ในกลุ่ม imageFORCE Series ใหม่เพิ่มเติมอีก 9 รุ่นภายในปี 2568”
การพิมพ์ยังเป็นสิ่งจำเป็นตัวช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ
นายพงศพร กรอบสนิท ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “แนวโน้มการทำงานยุคใหม่ชี้ชัดว่า องค์กรให้ความสำคัญกับความร่วมมือในสำนักงาน ความปลอดภัยของข้อมูล ความยั่งยืน และการนำ AI มาใช้มากขึ้น แคนนอนจึงต้องปรับตัวเพื่อส่งมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกมิติของการเปลี่ยนแปลงนี้ จากผลสำรวจตามรายงาน Quocirca: Print Industry Trends 2025 รายงานว่า กว่า 69% ของลูกค้าคาดหวังให้ซัพพลายเออร์หรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมีส่วนร่วมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในขณะเดียวกันองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกมีแผน ลงทุนเพิ่มในเทคโนโลยี AI และ Machine Learning แสดงให้เห็นว่าองค์กรในวันนี้ต้องการเทคโนโลยีที่ทั้งชาญฉลาดและยั่งยืน และแคนนอนเชื่อว่าโซลูชันด้านการพิมพ์ในอนาคต ต้องไม่เพียงตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ต้องผสานความปลอดภัย ระบบคลาวด์ และความยืดหยุ่นของ Hybrid Work ได้อย่างลงตัว”
“ตลาดเครื่องถ่ายเอกสารสีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2568 คาดว่าจะมียอดจำหน่ายสูงถึง 25,000 เครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 127% สถานการณ์ในปัจจุบันผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยังไม่ลดการพิมพ์ลง มีผู้ใช้งานกว่า 60% มองว่า การพิมพ์เป็นสิ่งจำเป็นในการสื่อสารกับลูกค้า และ 57% เชื่อว่าข้อมูลสำคัญควรนำเสนอในรูปแบบสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดยังคงมีความต้องการอุปกรณ์ที่มี คุณภาพสูง ปลอดภัย และตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งแคนนอนสามารถตอบสนองได้อย่างครอบคลุม” นายพงศพร กล่าว
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน imageFORCE Series
มาพร้อมระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการทำงาน และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยขั้นสูงที่ช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กร มอบประสบการณ์การใช้งานที่ทรงพลัง เข้าใจง่าย และช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดดังนี้
- imageFORCE C5100 – เครื่องพิมพ์ A3 สีความเร็วสูง รองรับปริมาณงานพิมพ์มาก พร้อมระบบ AI อัจฉริยะ
- imageFORCE 6100 – เครื่องพิมพ์ A3 ขาวดำ ตอบสนองการใช้งานของทีมงานที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
- imageFORCE C7165 – เครื่องพิมพ์สี รุ่นเรือธงที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุด ครบเครื่องทั้งคุณภาพงานพิมพ์และฟีเจอร์อัจฉริยะแบบจัดเต็ม
- imageFORCE C3150 – เครื่องพิมพ์สี ดีไซน์กะทัดรัดเหมาะสำหรับออฟฟิศขนาดกลาง และรองรับงานพิมพ์ความเร็วสูงได้ กำหนดวางจำหน่ายในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
2 นวัตกรรมใหม่ในพรินเตอร์
เทคโนโลยี D² Exposure ที่ใช้อุปกรณ์การผลิตจอแสดงผลไดโอดเปล่งแสงอินทรีย์ (OLED) ในการพิมพ์ มอบคุณภาพงานพิมพ์ระดับพรีเมียม ด้วยสีสันคมชัด ตัวอักษรคมชัดทุกมิติ และความละเอียดสูงถึง 4,800 x 2,400 dpi เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการงานพิมพ์คุณภาพสูงในทุกชิ้นงาน ผลิตภัณฑ์กลุ่ม imageFORCE series คืออีกก้าวสำคัญของแคนนอน ในการสนับสนุนธุรกิจไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และพร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล และยกระดับการบริการไปอีกขั้นด้วย เทคโนโลยี E2 Analysis การวิเคราะห์ข้อมูลและอัลกอริทึมด้วย AI ช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหางานพิมพ์ล่วงหน้าได้จากระยะไกลก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น ถือเป็นการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานพิมพ์ ลดความผิดพลาด ลดเวลาหยุดชะงัก (downtime) และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม อีกทั้งการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานนี้จะช่วยให้ระบบสามารถปรับปรุงข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต