เทคโนโลยี

มาแล้ว Apple Intelligence พร้อมใช้บน iPhone- iPad -Mac

30 ตุลาคม 2567

Apple Intelligence  เพื่อปรับการเขียนให้สวยงาม  สรุปเนื้อหาการแจ้งเตือน อีเมล และข้อความ Siri เป็นธรรมชาติมากขึ้น และฟีเจอร์ Clean Up

Apple  ประกาศการเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ iPhone, iPad และ Mac ด้วยคุณสมบัติชุดแรกของ Apple Intelligence ได้แล้ว ผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีเป็น iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1

บันทึกและถอดข้อความจากเสียงในแอปโทรศัพท์และโน้ตได้แล้ว และ Apple Intelligence จะสรุปข้อความที่ถอดเสียงให้

Apple Intelligence เป็นระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่อาศัยขุมพลังของ Apple Silicon เพื่อทำความเข้าใจ สร้างภาษาและรูปภาพ ทำสิ่งต่างๆ ระหว่างแอป รวมถึงดึงบริบทเฉพาะตัวของผู้ใช้ออกมาเพื่อช่วยให้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

พร้อมกับพัฒนาเรื่องความเป็นส่วนตัวใน AI ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น

หลังจากเปิดให้ใช้งานคุณสมบัติชุดแรกได้  จะมีคุณสมบัติอื่นๆ  ทยอยเปิดให้ใช้งานในเดือนต่อๆ ไป

Tim Cook    CEO  , Apple กล่าวไว้ว่า   Apple Intelligence สร้างขึ้นบนพื้นฐานของนวัตกรรมด้าน AI และการเรียนรู้ของระบบที่พัฒนาต่อเนื่องมานานหลายปี เพื่อนำเจเนอเรทีฟโมเดลของ Apple มาใช้เป็นหัวใจสำคัญในอุปกรณ์ของเรา  ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มีระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่ใช้ง่ายโดยที่ยังคงปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เรียกได้ว่า Apple Intelligence เป็นเจเนอเรทีฟ AI ในแบบเฉพาะ ยกระดับชีวิตของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น

คุณสมบัติเด่น

Writing Tools หรือเครื่องมือการเขียนผสานรวมเข้ากับทุกส่วนใน iOS, iPadOS และ macOS เพื่อให้ผู้ใช้สามารถขัดเกลาภาษาให้สวยงามโดยการปรับการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความได้เกือบทุกที่ที่เขียน ทั้งในแอปเมล, ข้อความ, โน้ต, Pages และแอปของบริษัทอื่น

Rewrite หรือ “ปรับการเขียน” ใน Apple Intelligence  ให้ผู้ใช้เลือกสิ่งที่เขียนไปจากหลายเวอร์ชั่นที่มีให้ และปรับน้ำเสียงว่า ต้องการให้ดูเป็นมืออาชีพ กระชับ หรือเป็นมิตร เพื่อให้เข้ากับผู้อ่านและงานที่ทำอยู่

Proofread หรือ “พิสูจน์อักษร”  จะตรวจสอบไวยากรณ์ คำที่เลือกใช้ และโครงสร้างประโยค ขณะเดียวกันยังแนะนำสิ่งที่ควรแก้ รวมถึงคำอธิบายว่าทำไมจึงควรแก้ ซึ่งผู้ใช้สามารถตรวจทานดูก่อนหรือจะยอมรับเลยก็ได้ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกข้อความเพื่อให้สรุปออกมาในรูปแบบของย่อหน้า หัวข้อย่อย ตาราง หรือรายการที่ดูแล้วเข้าใจง่าย

พูดคุยกับ Siri

Siri มีความเป็นธรรมชาติ ยืดหยุ่น มาในดีไซน์ใหม่ที่จะส่องแสงเรืองๆ อย่างสวยงามบริเวณโดยรอบของขอบหน้าจอ iPhone, iPad หรือ CarPlay

ส่วนบน Mac ผู้ใช้สามารถวาง Siri ไว้ตรงไหนก็ได้บนเดสก์ท็อปเพื่อให้เรียกใช้ได้ง่ายขณะทำงาน และพิมพ์โต้ตอบกับ Siri ได้ทุกเมื่อบน iPhone, iPad และ Mac   

Siri สามารถจับใจความได้ถึงแม้ผู้ใช้จะพูดตะกุกตะกัก

แอปรูปภาพฉลาด

แอปรูปภาพชาญฉลาดมากยิ่งขึ้นด้วยความสามารถใหม่ๆ มากมาย โดยผู้ใช้สามารถค้นหาได้แทบทุกอย่างด้วยภาษาธรรมชาติ เพียงแค่พิมพ์คำอธิบายของสิ่งที่ต้องการค้นหา

Clean Up หรือ “ลบออก” เพื่อลบสิ่งรบกวนสายตาออกไปโดยไม่ส่งผลต่อภาพต้นฉบับในแบบที่ผู้ใช้ต้องการถ่ายทอด

ทั้งนี้ในเดือนธันวาคม 2567  ผู้ใช้ยังจะได้พบกับประสบการณ์การใช้งานระบบอัจฉริยะด้านภาพใหม่ที่สร้างขึ้นบน Apple Intelligence และช่วยผู้ใช้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุและสถานที่ได้ทันทีโดยอาศัยตัวควบคุมกล้องใหม่บนกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 16

ความพร้อมใช้งาน

คุณสมบัติชุดแรกของ Apple Intelligence พร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้ในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีเป็น iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1 และสามารถใช้งานได้ในภูมิภาคส่วนใหญ่ทั่วโลกเมื่อตั้งค่าภาษาของอุปกรณ์และ Siri เป็นภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกา (U.S. English)

Apple Intelligence กำลังเร่งทยอยเพิ่มการรองรับภาษาอื่นๆ เพิ่มเติม ในเดือนธันวาคม Apple Intelligence จะพร้อมให้ใช้งานในภาษาอังกฤษท้องถิ่นแบบออสเตรเลีย แคนาดา ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร

ในเดือนเมษายนจะมีการอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อรองรับภาษาอื่นๆ เพิ่มเติมโดยจะมีการเพิ่มภาษาที่รองรับตลอดทั้งปี และจะทยอยรองรับภาษาจีน, อังกฤษ (อินเดีย), อังกฤษ (สิงคโปร์), ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, โปรตุเกส, สเปน, เวียดนาม และภาษาอื่นๆ

Apple Intelligence ใช้งานได้บน iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro, iPhone 16 Pro Max, iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max, iPad พร้อมชิป A17 Pro หรือ M1 และใหม่กว่า และ Mac พร้อมชิป M1 และใหม่กว่า

ผู้เขียน
ทีม iJournalist

Share
Related