แนะนำ 3 ฟีเจอร์ใหม่ตัวช่วยผู้พิการจาก Apple
Apple แนะนำฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเติมมีทั้ง Live Speech, Personal Voice และ Point and Speak สร้างความเสมอภาคด้านการเข้าถึงเทคโนโลยีให้ผู้พิการด้านรับรู้ การพูด และการมองเห็นเตรียมเปิดตัวในปลายปีนี้
ฉลองวัน Global Accessibility Awareness
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ Apple ได้ร่วมฉลองวัน ผ่านกิจกรรมที่ร้านApple Store บางสาขา และแนะนำฟีเจอร์การใช้งานใหม่ๆ ที่ผู้พิการด้านต่างๆ มีส่วนร่วมพัฒนา เพื่อให้ตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด
SignTime จะเปิดตัวในเยอรมนี อิตาลี สเปน และเกาหลีใต้ในวันที่ 18 พฤษภาคม เพื่อเชื่อมต่อลูกค้าของ Apple Store และบริการช่วยเหลือของ Apple กับล่ามภาษามือได้ตามต้องการ ให้บริการแล้วในสหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น
Apple Carnegie Library จะนำเสนอเซสชั่น Today at Apple โดยนักแสดงและล่ามภาษามือ
การสำรองที่นั่งแบบกลุ่ม ให้บริการตลอดทั้งปี
Apple Podcasts นำเสนอคอลเลกชั่นรายการเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีการช่วยการเข้าถึง
Apple TV มีภาพยนตร์และซีรีส์ที่คัดสรรโดยนักเล่าเรื่องชื่อดังจากชุมชนผู้พิการ
Apple Music นำเสนอมิวสิกวิดีโอภาษามืออเมริกัน
ฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้พิการ
ปุ่มทางลัด หรือปุ่มกลมสีขาว แอปแว่นขยาย ที่เราผู้มีร่างกายปกติก็ได้ใช้ประโยชน์ใช้กันประจำ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Apple ทำงานใกล้ชิดกับตัวแทนของผู้ใช้ซึ่งมีความพิการหลากหลายประเภท เพื่อหาทางสร้างเครื่องมือการใช้งานใหม่ๆ ด้วยความมุ่งมั่นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นต่อการใช้ชีวิตให้ผู้คนเหล่านี้
ดังนั้น ปลายปี 2566 นี้ ผู้พิการ หรือผู้ที่มีความต้องการพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นทางการรับรู้ จะใช้iPhone และ iPad ได้ง่ายและเป็นอิสระมากขึ้น ด้วย Assistive Access ปุ่มแบบคอนทราสต์สูงและป้ายตัวอักษรขนาดใหญ่ การสื่อสารด้วยภาพ แอปข้อความจะมีคีย์บอร์ดเฉพาะอิโมจิอย่างเดียว และตัวเลือกในการบันทึกข้อความวิดีโอ เป็นต้น
ผู้ที่พูดไม่ได้ จะสามารถพิมพ์เพื่อพูด ในระหว่างการโทรศัพท์และการสนทนา ผ่านฟีเจอร์ Live Speech บน iPhone, iPad และ Mac เราจะพิมพ์สิ่งที่ต้องการพูด ระบบจะพูดออกเสียงแทนเราระหว่างการโทรศัพท์หรือโทร FaceTime การสนทนาแบบต่อหน้า
บันทึกประโยคหรือคำพูดที่ใช้บ่อยที่สุด เพื่อให้พูดแทรก ระหว่างการสนทนากับครอบครัว กับเพื่อนApple บอกว่า Live Speech ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้คนนับล้านทั่วโลกซึ่งพูดไม่ได้ หรือผู้ที่สูญเสียความสามารถในการพูดไปตามกาลเวลา
สุดท้ายคือ ฟีเจอร์ Personal Voice ตัวช่วยสำหรับผู้ซึ่งมีความเสี่ยงจะสูญเสียความสามารถในการพูด ผู้ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis) หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือโรคอื่นๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการพูด ฟีเจอร์ Personal Voice จะช่วยสร้างเสียงที่เหมือนเสียงสังเคราะห์ที่ฟังเหมือนเสียงตัวเอง เอาไว้ใช้สำหรับติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนๆ
Point and Speak คือ ฟีเจอร์การตรวจจับในแอปแว่นขยายสำหรับผู้ใช้ซึ่งตาบอดหรือสายตาเลือนราง ซึ่งคุณสมบัติใหม่นี้ จะช่วยระบุข้อความ เมื่อผู้ใช้ชี้ไปยังจุดที่ต้องการรู้ แอปจะอ่านออกเสียงให้ได้ยิน เพื่อช่วยในการโต้ตอบกับสิ่งของต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
Sarah Herrlinger ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Global Accessibility Policy and Initiatives ของApple บอกว่า
คุณสมบัติการใช้งานล้ำหน้าเหล่านี้ ออกแบบมาจากข้อคิดเห็นของสมาชิกกลุ่มผู้พิการในทุกขั้นตอนของการทำงาน เพื่อรองรับกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลาย และช่วยผู้คนติดต่อกันด้วยวิธีการใหม่ๆ
Personal Voice สามารถสร้างได้โดยใช้ iPhone, iPad, และ Mac ที่มี Apple silicon และจะพร้อมให้บริการเป็นภาษาอังกฤษ
Point and Speak จะสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ iPhone และ iPad ที่มีสแกนเนอร์ LiDAR ในภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน สเปน โปรตุเกส จีน กวางตุ้ง เกาหลี ญี่ปุ่น และยูเครน
ผู้ใช้จะสามารถจับคู่อุปกรณ์ช่วยฟัง Made for iPhone กับอุปกรณ์ Mac บางรุ่นที่มีชิป M1 และอุปกรณ์ Mac ทุกรุ่นที่มีชิป M2
นี่คือพันธกิจใน DNA ของ Apple ที่มุ่งมั่นออกแบบเทคโนโลยีสำหรับทุกคน เหมือนที่ Tim Cook , CEO ของ Apple เขียนไว้ในทวิตเตอร์ว่า Apple เชื่อว่า เทคโนโลยีควรได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทุกคนทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ทำตามความฝันได้มากขึ้น
บรรณาธิการเทคโนโลยี
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้