แพลตฟอร์ม AIP จะกลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งของ GISTDA
หลายปีมานี้คนไทย คุ้นเคยกับข้อมูลดาวเทียมจาก GISTDA กันมากแล้ว โดยเฉพาะภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่ออกมาเป็นประจำทั้งภาพถ่ายจากภาวะวิกฤติ ภาพถ่ายเชิงภูมิทัศน์ ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว
รู้หรือไม่ว่า สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA นั้นมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีอวกาศมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนในประเทศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
แพลตฟอร์ม AIP
ย่อมาจาก Actionable Intelligence Policy ” เกิดขึ้นพร้อมกับโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา THEOS-2 ด้วยความร่วมมือระหว่าง GISTDA กับบริษัท AIRBUS เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายในทุกระดับ
โดยใช้กระบวนการประยุกต์ใช้ข้อมูลอย่างชาญฉลาด ช่วยในการสังเคราะห์ข้อมูลให้ผู้กำหนดนโยบาย มองเห็นสถานการณ์ มิติของปัญหา วิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างครบถ้วนและรอบด้าน ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่เหมาะสมและนำไปปฏิบัติได้จริง
ผลงานของ แพลตฟอร์ม AIP
แพลตฟอร์ม AIP เริ่มต้นมากว่า 6 ปีแล้ว ผ่านการพัฒนาเพื่อนำมาใช้งานให้เหมาะสมกับประเทศไทย เริ่มต้นนำร่องใช้งานในพื้นที่ต้นแบบ 2 แห่ง คือ
พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ทดสอบนโยบายการจัดการน้ำ เพื่อให้มีเพียงพอต่อความต้องการในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม ภาคครัวเรือน และกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
พื้นที่จังหวัดน่าน ประเมินความเหมาะสมของการใช้ที่ดิน และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อวางแผนการจัดการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ การหาพื้นที่และแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมในการประกอบอาชีพ เพื่อดำรงชีพร่วมกับทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
จากโมเดลนำร่องใน 2 พื้นที่ดังกล่าว นำไปสู่การขยายผลใช้งานแพลตฟอร์ม AIP ในด้านอื่น ๆ ดังนี้
การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Change ) ที่จังหวัดนครราชสีมา
การปล่อยก๊าซมีเทนในข้าวที่จังหวัดชัยนาท
ต่อยอดระบบบริหารจัดการน้ำกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ที่กำลังจะขยายผลการใช้งานไปสู่พื้นที่อื่น ๆ และเป็นการวางแผนคาดการณ์กับนโยบายที่เห็นผลในระยะสั้นมากขึ้น
เป้าหมายของแพลตฟอร์มAIP
ดร.ดิชพงษ์ ภูมิเกียรติศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาระบบนวัตกรรมนโยบายเชิงพื้นที่ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA กล่าวว่า การนำแพลตฟอร์ม AIP ไปประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ ได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น เช่น เรื่องการบริหารจัดการน้ำ การเกษตร และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
หน่วยงานภาครัฐยังให้ความสนใจนำหลักการของ AIP ไปใช้ในมิติอื่น ๆ เช่น การบริหารจัดการเมือง ที่จำเป็นต้องมีการวางแผนรองรับการขยายตัวของเมือง การจัดการที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่จะตามมาจากจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
“ การทำ AIP เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบาย จำเป็นจะต้องเกี่ยวข้องกับปัจจัยในมิติต่าง ๆ มากกว่า 1 ด้าน และเชื่อมโยงประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เห็นภาพ สถานการณ์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและจำลองเหตุการณ์เพื่อคาดการณ์ไปถึงอนาคต”
AIP จึงเป็นเครื่องมือของหน่วยงานภาครัฐ ช่วยให้สามารถกำหนดนโยบายได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์
โดยเฉพาะ “ ข้อมูลจากดาวเทียม ” เป็นจุดแข็งของ GISTDA ที่ผ่านมาเทคโนโลยีดาวเทียมของ GISTDA นอกจากจะสร้างแผนที่พื้นฐานที่มีความละเอียดและแม่นยำสูงแล้วยังสร้างโซลูชั่นที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลพื้นที่น้ำท่วมทุกปี ดูย้อนหลังได้เป็น 10 ปี ข้อมูลจุดความร้อนที่มาจากไฟป่า ข้อมูล PM 2.5 ข้อมูลพื้นที่การเกษตรที่มีอัพเดททุก 15 วัน รวมถึงเรื่องพื้นที่ป่า พื้นที่สีเขียว และการปลดปล่อยคาร์บอน
“ โซลูชั่นเหล่านี้ GISTDA ได้ดำเนินการมายาวนาน เป็นองค์ความรู้ มีฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ ที่ GISTDA เก็บสะสมมาและยังทำอยู่ รอวันที่จะประกอบร่างเป็น AIP เพี่อตอบคำถามเชิงนโยบาย เมื่อรวมกับข้อมูลสารสนเทศจากแหล่งอื่น ๆ รวมถึงโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่จะพัฒนาเพิ่มเติมเข้ามา ทำให้แพลตฟอร์ม AIP มีข้อมูลที่หลากหลายมิติ และครอบคลุมรอบด้านมากขึ้น ”
อนาคตของแพลตฟอร์ม AIP
ดร.ดิชพงษ์ บอกว่า GISTDA มีแผนจะทำ AIP ในโจทย์ใหม่ ๆ ตามความต้องการของหน่วยงานภายนอกมากขึ้น รวมถึงการทำ AIP ในโจทย์ที่เป็นประเด็นสำคัญ เช่น Climate Change ซึ่งในปีงบประมาณ 2568 GISTDA ได้มีการตั้งงบสำหรับดำเนินการในโจทย์เรื่องดังกล่าว และตั้งเป้าในการทำ AIP อย่างน้อยปีละ 1 เรื่อง ไม่รวมความต้องการเร่งด่วนหรือโจทย์อื่นๆ ที่มาจากความต้องการใช้บริการของหน่วยงานภายนอก
ปัจจุบัน GISTDA ยังคงมุ่งเน้นการให้บริการแพลตฟอร์ม AIP กับหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น โดยเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อสร้างโซลูชั่นในการแก้ไขปัญหาเฉพาะด้านเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นการจัดการน้ำ แบบองค์รวม การจัดการเมืองและเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ การจัดการภัยพิบัติ การจัดการเกษตรและอาหาร และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศ
AIP ได้ดำเนินการสร้างนโยบายที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ผ่านหลักการของ 5M ได้แก่
Mapping ทำข้อมูลเชิงพื้นที่
Monitoring ติดตามการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่นั้น
Modeling การทำแบบจำลองเพื่อคาดการณ์ผลลัพธ์ในอนาคต
Measurement การวัดผลลัพธ์ที่ได้ เพื่อเลือกการดำเนินงานที่เหมาะสมที่สุด
Managing การบริหารจัดการ ที่นำเอาความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกระดับที่มีต่อ“นโยบาย” มาวิเคราะห์ เพื่อนำไปสู่แนวทางการปฏิบัติงานได้จริง
ทีมพัฒนาคาดหวังว่า การให้บริการแพลตฟอร์ม AIP จะกลายเป็นธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูงของ GISTDA เพราะการใช้ประโยชน์จากการมีเทคโนโลยีดาวเทียม ไม่ได้มีดีแค่ขายภาพถ่ายทางอากาศเท่านั้น
8 เทรนด์กระเบื้องมาแรงปี 2025 “From Nature to Life” เชื่อมโยงธรรมชาติกับชีวิต
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้