ช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สนามกอล์ฟเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ปีนี้สถานการณ์สนามกอล์ฟในเมืองใหญ่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว นักกอล์ฟต่างชาติกลับมาแล้ว 80-90% คาดปีหน้าหน้าต่างชาติจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
กาญจน์ บุพศิริ ผู้จัดการทั่วไป สนามเลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ ได้ให้ความเห็นถึงภาพรวมธุรกิจสนามกอล์ฟในปัจจุบัน ว่า ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด 19 ธุรกิจสนามกอล์ฟก็ยังชะลอตัว ในขณะที่พฤติกรรมนักกอล์ฟไทยนิยมใช้บริการในโซนเดิมที่คุ้นเคย ไม่กระจายตัวออกมาเหมือนก่อนหน้านี้ ในส่วนสนามกอล์ฟในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพก็กลับเข้ามาสู่ภาวะปกติแล้ว แต่สนามกอล์ฟในต่างจังหวัดจะขึ้นอยู่กับฤดูการท่องเที่ยว เพราะพึงพานักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า ซึ่งนักกอล์ฟต่างชาติยังคงเข้ามาน้อยกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด 19 โดยโซนสนามกอล์ฟในกรุงเทพ จะมีลูกค้าส่วนใหญ่ 80 – 90% เป็นคนไทย แต่สนามกอล์ฟในต่างจังหวัดโดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น หัวหิน ชะอำ จะพึ่งพาลูกค้านักกอล์ฟชาวต่างชาติสูงถึง 70% แต่ก็มีชาวต่างชาติบางส่วนที่พักอาศัยในไทยที่เข้ามาเล่นกอล์ฟอย่างสม่ำเสมอจึงยังคงพึ่งพานักกอล์ฟกลุ่มนี้ได้ โดยในปัจจุบันนักกอล์ฟต่างชาติได้กลับมาแล้วประมาณ 80% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด 19 และคาดว่าในปีหน้าลูกค้าชาวต่างชาติจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ในส่วนของแนวทางการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวกลางแจ้งโดยเฉพาะกอล์ฟ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นั้นจะช่วยให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายต่อหัวที่สูงขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจะไม่มองในเรื่องของราคาค่าบริการสนามกอล์ฟเพียงอย่างเดียว แต่จะให้ความสำคัญในด้านคุณภาพมากกว่า ทั้งด้านรูปแบบของสนาม และการให้บริการที่ดี ขณะเดียวกันประเทศไทยมีศักยภาพเหนือกว่าประเทศอื่นในโซนเอเชียน และยังคงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน เนื่องจากสนามกอล์ฟของไทยมีจำนวนมากถึง 800 แห่ง มากที่สุดในอาเซียนและมีความหลากหลายทั้งด้านของราคาตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึง Luxury และสถานที่ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่สนามกอล์ฟติดทะเล บนภูเขา หรือบนพื้นราบ ต่างจากประเทศในอาเซียนที่มีความหลากหลายน้อยกว่ามาก จึงก็เป็นปัจจัยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ดี
“สำหรับภาพรวมธุรกิจสนามกอล์ฟของไทยในช่วงก่อนเกิดโควิด 19 มีอัตราการเติบโตที่ระดับ 3 – 4% ซึ่งเป็นการเติบโตที่ไม่มากนัก โดยรัฐบาลควรเข้ามาส่งเสริมในธุรกิจสนามกอล์ฟ ในด้านต่างๆ เช่นการปรับโครงสร้างภาษี ซึ่งจะช่วยในเรื่องการแข่งขันด้านราคาได้มากขึ้น เพราะสนามกอล์ฟถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวรายได้สูงให้เข้ามาท่องเที่ยวในไทย ที่มีการใช้จ่ายในสนามกอล์ฟไม่ต่ำกว่า 6,600 – 10,000 บาทต่อวัน และหากค่าบริการสนามกอล์ฟถูกลง จะช่วยดึงดูดให้คนไทยเข้ามาเล่นกอล์ฟมากขึ้น และหากมีผู้ที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ราคาก็จะถูกลงไปอีก คนไทยก็จะสามารถเข้าถึงง่ายขึ้น เหมือนในยุโรปที่คนทั่วไปก็เข้ามาเล่นกอล์ฟได้ ซึ่งจะทำให้กีฬากอล์ฟเติบโตและคนไทยก็มีสุขภาพที่ดีขึ้น และยังสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับประเทศปีละหลายพันล้านบาท” กาญจน์ บุพศิริ กล่าวสรุป
เจ้าของแบรนด์ฟังไว้ราคาดี-คูปองส่วนลดปัจจัยหลักกลับมาซื้อซ้ำ