ส่องปฏิบัติไปรษณีย์ไทยส่งบัตรเลือกตั้ง 66
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มอบหน้าที่ให้ไปรษณีย์ไทยส่งบัตรเลือกตั้งทั้งในและนอกราชอาณาจักร เตรียมรถขนส่งกว่า 500 เที่ยว 400 เขต มีระบบติดตามรถ 24 ชั่วโมง
ภายในสำนักงานใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัด เป็น “ศูนย์ประสานงานการขนส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566” เพื่อใช้ในการตรวจนับและการจัดเก็บบัตรเลือกตั้ง รายงานผลการปฏิบัติงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมีระบบ CCTV GPS และห้อง Control Room ติดตามการขนส่ง และตรวจสอบหากเกิดความผิดปกติได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ภายหลังการแถลงข่าวร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
ไปรษณีย์ไทย โดย ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้พาไปชมห้องคอนโทรลรูม ของไปรษณีย์ไทย ในฐานะหน่วยงานสื่อสารและขนส่งหลักแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566
ภารกิจเกี่ยวกับเลือกตั้ง ส.ส.
ปีนี้มีภารกิจหลักในด้านการขนส่ง 5 ภารกิจ
1.การจัดส่งหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 1/6) และเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง
2.การจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลือกตั้งทั่วไป
3.การจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกราชอาณาจักรล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้ว
4.การจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอก/ในเขตเลือกตั้งล่วงหน้า
ที่ลงคะแนนแล้ว
5.การจัดส่งและตอบกลับหนังสือแจ้งเจ้าบ้านที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง/ในเขตเลือกตั้ง
400 เขต ส่ง 500 เที่ยว
รถขนส่งที่จะใช้ขนส่งบัตรฯ – อุปกรณ์ต่าง ๆ ไปยัง 400 เขต จำนวนกว่า 500 เที่ยว ตลอดการเดินทางของรถขนส่ง จะมีระบบคุ้มกันความปลอดภัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกเส้นทาง ภายในสำนักงานใหญ่ของไปรษณีย์ไทย จัดตั้งศูนย์ประสานงานการขนส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 เพื่อใช้ในการตรวจนับและการจัดเก็บบัตรเลือกตั้ง รายงานผลการปฏิบัติงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมีระบบ CCTV GPS และห้อง Control Room ที่สามารถติดตามการขนส่ง และตรวจสอบหากเกิดความผิดปกติได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“รถจอดพักนาน ก็จะต้องถูกตรวจสอบตลอดเส้นทาง พนักงานที่เข้ามารับผิดชอบงานส่วนนี้ ก็ไม่ต้องทำงานในส่วนอื่น ให้แยกหน้าที่ออกมาเลย”
เริ่มจัดส่งหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
หรือแบบ (ส.ส.1/6) จำนวนกว่า 52 ล้านรายชื่อ และเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งไปยังประชาชนกว่า 18 ล้านครัวเรือนภายใน 20 วันก่อนเลือกตั้ง
จัดส่งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไปยัง 66 ประเทศ 94 เมืองปลายทาง
ผ่านระบบขนส่งทางอากาศยาน ดำเนินการระหว่างวันที่ 14 – 15 เมษายน 2566 มีการขนส่งด้วยระบบภาคพื้นสำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด
หลังจากการเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วเสร็จ ระหว่างวันที่ 7 – 13 พฤษภาคม 2566 จะเร่งจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกเขตเลือกตั้ง/ในเขตเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้วไปยัง กกต. โดยระดมเจ้าหน้าที่กว่า 500 คน เพื่อคัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้วตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
ซึ่งบัตรเลือกตั้งมีความปลอดภัยใช้กระดาษแบบพิเศษ เป็นบัตรเฉพาะหน่วยเลือกตั้งนั้นๆ
ค่าบริการเหมาจ่ายชิ้นละ 1.50 บาท
นอกจากภารกิจการขนส่งบัตรเลือกตั้งแล้ว ไปรษณีย์ไทยยังได้ใช้ความเชี่ยวชาญพร้อมทั้งฐานข้อมูลครัวเรือนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมืองและ กกต. ได้ทำการสื่อสารนโยบาย หรือข้อมูลต่างๆ ส่งตรงไปยังกลุ่มเป้าหมาย ด้วยบริการไปรษณียภัณฑ์ไม่มีจ่าหน้า หรือ Advertising Mail ในรูปแบบแผ่นพับ ใบปลิว
สามารถระบุพื้นที่กลุ่มเป้าหมายได้ด้วยฐานข้อมูลครัวเรือนของไปรษณีย์ไทย ที่มีความเชี่ยวชาญแม่นยำทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีอัตราค่าบริการเหมาจ่าย 1.50 บาทต่อชิ้นทั่วประเทศ พิกัดน้ำหนักไม่เกิน 50 กรัม โดยไม่กำหนดปริมาณงานขั้นต่ำ สนใจสามารถสอบถามข้อมูล หรือใช้บริการได้ที่ไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ www.thailandpost.co.th
ยอมรับไปรษณีย์ไทยยังเข้าไม่ถึงกลุ่มลูกค้าเจน Z
แม้ว่าไปรษณีย์ไทยจะมีภารกิจใหญ่ระดับประเทศ อย่างการขนส่งบัตรเลือกตั้ง คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 190 ล้านบาท ซึ่งเคยได้เมื่อทำหน้าที่เดียวกันในการเลือกตั้งปี 2562 แต่ผู้บริหารไปรษณีย์ไทยก็ยอมรับว่า ยังเข้าไม่ถึงกลุ่มลูกค้าคนเจนใหม่ เจน Z เพราะคนรุ่นใหม่ คุ้นเคยกับบริการขนส่งของภาคเอกชน แต่ไปรษณีย์ไทยก็พยายามที่จะเจาะฐานลูกค้ากลุ่มนี้ให้ได้ ผ่านกิจกรรมและบริการใหม่ ทั้งโปสการ์ดออนไลน์ พรินท์แอดโพสต์ เป็นต้น
บรรณาธิการเทคโนโลยี
8 เทรนด์กระเบื้องมาแรงปี 2025 “From Nature to Life” เชื่อมโยงธรรมชาติกับชีวิต
รู้ยังแอป Find My ของ Apple เปิดให้แชร์ตำแหน่งของหายกับบุคคลอื่นได้